จัดอันดับเซ็นเตอร์ฮาล์ฟที่ดีที่สุดตลอดกาล - RANKED
- ซีรีย์ที่จัดอันดับนักเตะที่ดีที่สุดในโลกตลอดกาลในแต่ละตำแหน่ง
- กองหลังตัวกลางเป็นอีกหนึ่งตำแหน่งที่ต้องคอยแบกภาระในเกมรับให้กับทีม
- นับถอยหลังกับปราการหลังที่ว่ากันว่าดีที่สุดตลอดกาลตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
โดย Navapun Munarsa
เป็นที่ถกเถียงกันปกติในทุกยุคทุกสมัยว่านักเตะคนใดคือแข้งที่ดีที่สุดตลอดกาลที่โลกนี้เคยมีมา ซึ่งวันนี้เราจึงอยากลองนำคำถามเหล่านั้นมาหาคำตอบในแบบที่ละเอียดมากยิ่งขึ้นกับการจัดอันดับนักเตะที่ดีที่สุดตลอดกาลในแต่ละตำแหน่ง แน่นอนว่ามันอาจจะตรงหรือไม่ตรงใจใครหลาย ๆ คน แต่นี่คือเสน่ห์อย่างหนึ่งของฟุตบอลกับการดีเบตเพื่อแสดงความเห็นที่แตกต่างกันออกมา
“เกมรุกทำให้คุณชนะ แต่เกมรับทำให้คุณเป็นแชมป์” คำพูดนี้ยังคงใช้ได้เสมอกับวงการฟุตบอลทุกยุคทุกสมัย เพราะแนวรับที่แข็งแกร่ง และไว้ใจได้นั้น ย่อมทำให้เกมรุกสามารถสร้างสรรคเกมบุกได้ง่ายและหลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คที่นับว่าเป็นหัวใจสำคัญในเกมรับและสามารถชี้เป็นชี้ตายผลการแข่งขันได้ และนี่คือเหล่าบรรดากองหลังระดับท็อปในประวัติศาสตร์ที่หากเอ่ยชื่อออกมาแล้วเชื่อได้ว่าทุกทีมบนโลกล้วนอยากได้พวกเขาไปยืนบัญชาการหลังบ้านอย่างแน่นอนกับ
เซ็นเตอร์แบ็คที่ดีที่สุดตลอดกาลที่วงการฟุตบอลเคยมีมา !
25. เคราร์ด ปิเก้
ปิเก้ ประสบความสำเร็จแทบทุกรายการในเส้นทางอาชีพของตัวเอง และเจ้าตัวถือเป็นผู้เล่นคนสำคัญที่อยู่ในช่วงเวลาแห่งความรุ่งโรจน์ของทั้ง บาร์เซโลนา และ ทีมชาติสเปน อย่างแท้จริง นอกจากนี้ ไหวพริบ ความเยือกเย็น และความสง่างามในการเล่น มันยากที่กองหลังคนใดจะลอกเลียนแบบ
24. อัลดาเอียร์
อัลดาเอียร์ ยืนปักหลักคุมแนวรับให้กับทีมชาติบราซิล และ โรม่า มานานกว่าทศวรรษ โดยมีดีกรีคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกปี 1994 แถมยังเคยพา “หมาป่าเหลืองแดง” ประสบความสำเร็จทุกรายการแข่งขันในแดนมะกะโรนีอีกด้วย
23. ริโอ เฟอร์ดินานด์
ตลอดระยะเวลา 12 ซีซัน ในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด อดีตกองหลังทีมชาติอังกฤษ ประสบความสำเร็จแบบนับไม่ถ้วน ความนิ่ง และการอ่านเกมของ เฟอร์ดินานด์ อยู่ในระดับมาสเตอร์คลาสเลยทีเดียว โดยค่าตัว 30 ล้านปอนด์ ที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จ่ายให้กับ ลีดส์ เมื่อปี 2002 เรียกได้ว่า คุ้มค่าสุดๆ
22. อลัน แฮนเซน
ไม่ใช่แค่ตู้เก็บถ้วยรางวัลที่แสดงให้เห็นว่า ลิเวอร์พูล เป็นทีมที่ประสบความสำเร็จในยุค 80 มากเพียงใด แต่พวกเขายังมีดาวเด่นอย่าง แฮนเซ่น ที่ปักหลักในแผงแนวรับได้อย่างแข็งแกร่ง และเป็นที่พึ่งพาของเพื่อนร่วมทีมได้อยู่เสมอ
21. เกออร์ก ชวาร์เซนเบ็ค
เยอรมัน มีเซ็นเตอร์ฮาลฟ์ระดับโลกมากมายตลอด 2-3 ทศวรรษที่ผ่านมา และหนึ่งในนั้นคือ ชวาร์เซนเบ็ค ซึ่งอยู่กับ บาเยิร์น มิวนิค ตั้งแต่ปี 1966 - 1980 โดยนอกจากแชมป์ลีก 5 สมัยแล้ว เขายังประสบความสำเร็จในการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกปี 1974 อีกด้วย
20. เคลาดิโอ เจนติเล่
เจนติเล่ เกิดในประเทศลิเบีย ก่อนจะโยกมาอยู่ในอิตาลี และประสบความสำเร็จตลอดอาชีพในแดนมะกะโรนีอย่างน่าทึ่งด้วยการช่วยให้ ยูเวนตุส คว้าแชมป์ เซเรีย อา ได้ถึง 6 สมัย และมีดีกรีคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก ในปี 1982 มาแล้ว
19. ยาป สตัม
สตัม เคยสร้างสถิติเป็นกองหลังที่ค่าตัวแพงที่สุดในโลกหลังย้ายจาก พีเอสวี ไอนด์โฮเฟน มาเล่นกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 18 ล้านปอนด์ เมื่อปี 1998 และหลังจากนั้น ดาวเตะดัตช์ ก็ยืนเป็นกำแพงเหล็กพาพลพรรค “ปีศาจแดง” ประสบความสำเร็จกับมากมาย
18. จอห์น เทอร์รี่
ไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่า เทอร์รี่ เป็นหนึ่งในเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ และกัปตันทีมที่ดีที่สุดของ เชลซี รวมถึงทีมชาติอังกฤษซึ่งแน่นอนว่า ความทุ่มเท และคุณสมบัติความเป็นผู้นำของเจ้าตัวมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่มีใครเหมือนอีกแล้ว
17. เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค
คงไม่เกินไปที่จะพูดว่า ลิเวอร์พูล กลับมาเป็นหนึ่งในสโมสรระดับท็อปของยุโรปอีกครั้งหลังจากเซ็นสัญญากับ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค โดยกองหลังชาวดัตช์ ทำให้แผงแบ็คโฟร์ “หงส์แดง” แข็งแกร่งขึ้นแบบผิดหูผิดตา และเจ้าตัวยังรักษาฟอร์มการเล่นได้คงเส้นคงวามาตลอด แม้จะเคยได้รับบาดเจ็บยาวก็ตาม
16. โลร็องต์ บล็องก์
บล็องก์ อาจเป็นที่รู้จักกันดีที่สุดจากช็อตที่การจูบศีรษะของ ฟาเบียน บาร์กเตซ โกล์เพื่อนร่วมทีมชาติฝรั่งเศส ก่อนการดวลจุดโทษทุกครั้งในศึกฟุตบอลโลกปี 1998 ที่ทัพ “ตราไก่” คว้าแชมป์ แต่นอกเหนือจากนั้น คุณภาพ และประสบการณ์ของเจ้าตัวทำให้มักจะได้รับการยกย่องว่า เป็นพี่ใหญ่ในแผงแนวรับเสมอทั้งในสโมสร และทีมชาติ
15. จอร์โจ้ คิเอลลินี่
คิเอลลินี มีเหตุการณ์ดราม่ามากมายในสนาม โดยความแข็งแกร่ง ดุดัน กัดไม่ปล่อย และเข้าปะทะหนักหน่วงแทบทุกจังหวะ ทำให้ปราการหลัง “อัซซูรี่” เป็นคนที่แนวรุกฝ่ายตรงข้ามไม่อยากเผชิญหน้าด้วย
14. มาร์เซล เดอไซญี
นอกเหนือจากการรับใช้ทีมชาติฝรั่งเศสไปมากถึง 116 นัด เดอไซญี ยังคว้าแชมป์เกือบทุกรายการสำคัญในเส้นทางอาชีพอีกด้วย และเมื่อยืนจับคู่ในแนวรับร่วมกับ บล็องก์ นั้น แผงหลัง “ตราไก่” แทบไม่มีใครจะผ่านพวกเขาไปได้เลย
13. เฟร์นันโด เอียร์โร่
เอียร์โร เป็นหนึ่งในกองหลังที่แทบไม่มีจุดอ่อน เขามีคุณสมบัติครบถ้วนทุกอย่างที่ปราการหลังตัวกลางควรมี และยิ่งไปกว่านั้น ตำนานทีมชาติสเปน และ เรอัล มาดริด ยังสามารถขยับไปยืนเป็นมิดฟิลด์ได้ด้วย โดยผลงาน 163 ประตู ตลอดอาชีพ มันเป็นตัวเลขที่ดีกว่ากองหน้าบางรายด้วยซ้ำ
12. การ์เลส ปูโยล
หนึ่งใน วัน แทน คลับ ของวงการฟุตบอล ปูโยล ประสบความสำเร็จมากมายกับ บาร์เซโลน่า ด้วยการคว้าแชมป์ 24 รายการ และกับทีมชาติสเปนก็คว้าแชมป์รายการสำคัญมาทั้งหมดแล้ว ความซื่อสัตย์ ความทุ่มเท และภักดีของเจ้าตัว นั้น ทำให้แฟนบอลเคารพเป็นอย่างมาก
11. โฮเซ่ ซานตามาเรีย
สำหรับ ซานตามาเรีย เราอาจต้องย้อนอดีตกลับไปอีกไกล โดยตำนานกองหลัง เรอัล มาดริด รายนี้เคยเล่นให้กับทั้งทีมชาติอุรุกวัย และสเปน นอกจากนี้ เจ้าตัวยังได้รับการยกย่องว่า เป็นหนึ่งในบุคคลที่ปฏิวัติการเล่นเกมรับอย่างแท้จริง
10. บิลลี่ ไรท์
ไรท์ เล่นให้ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส มานานถึง 20 ปี ลงเล่นไปรวมทุกรายการมากถึง 490 เกม พร้อมกับพาพลพรรค “หมาป่า” คว้าแชมป์ดิวิชั่น 1 ได้ถึง 3 สมัย และ เอฟเอ คัพ 1 สมัย
9. แดเนียล พาสซาเรลลา
ในฐานะกองหลังตัวกลาง พาสซาเรลลา อาจถูกมองว่า ตัวเล็กไป เนื่องจากมีความสูงเพียง 170 เซนติเมตร แต่มีนักเตะไม่กี่คนที่จะเป็นตัวหลักของทีมาชาติอาร์เจนติน่า และพาทีมคว้าแชมป์ได้ถึง 2 สมัย ในปี 1978 และ 1986
8. โรนัลด์ คูมัน
ในบทบาทโค้ช คูมัน ไม่ได้รับความนิยมมากนักที่ บาร์เซโลน่า แต่ในบทบาทนักเตะ เขาเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่มีความสามารถรอบด้านที่สุดเท่าที่ “เจ้าบุญทุ่ม” และวงการฟุตบอลฮอลแลนด์ เคยมีมา โดยผลงาน 253 ประตูตลอดอาชีพ รวมถึงตำแหน่งดาวซัลโวในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 1993/94 มันบ่งบอกทุกอย่างหมดแล้ว
7. เซร์คิโอ รามอส
แข็งแกร่ง รวดเร็ว ก้าวร้าว และดุดัน คือคุณสมบัติทั้งหมดของ รามอส โดยอดีตกองหลังทีมชาติสเปน ประสบความสำเร็จทุกอย่างทั้งกับ มาดริด และ “กระทิงดุ” พร้อมกับฝากผลงานตะบันไป 119 ประตู ตลอดการลงเล่นมากกว่า 800 เกมในอาชีพ ซึ่งปัจจุบันในวัย 38 ปี เขายังโลดแล่นอยู่กับทีมที่ปั้นขึ้นมาอย่าง เซบีญา
6. ฟาบิโอ คันนาวาโร
เช่นเดียวกับ พาสซาเรลลา คันนาวาโร สูงเพียง 176 เซนติเมตร แต่ทดแทนด้วยไหวพริบ ความแข็งแกร่ง และการอ่านจังหวะเข้าปะทะที่เด็ดอยู่เสมอ โดยแชมป์ฟุตบอลโลกกับอิตาลี และรางวัล บัลลงก์ดอร์ ในปี 2006 ก็พิสูจน์ทุกอย่างหมดแล้ว
5. เกตาโน่ ชีเรอา
ชีเรอา สร้างสถิติมากมายตลอดระยะเวลา 14 ปี กับ ยูเวนตุส โดยลงเล่นตลอดอาชีพไปมากถึง 620 เกม และคว้าแชมป์รายการยุโรปในระดับสโมสรมาทั้งหมดทุกรายการ พ่วงด้วยแชมป์ฟุตบอลโลก 1982 อีก 1 สมัย
4. อเลสซานโดร เนสต้า
ศิลปะในการเล่นเกมรับ เนสตา เหมาะสมกับคำนิยามนี้อย่างแท้จริง อดีตปราการหลังทีมชาติอิตาลี ไม่ได้เป็นนักเตะประเภทบู๊ดุดัน หรือถึงลูกถึงคน แต่วิธีที่เขาใช้จัดการกับแนวรุกคู่แข่งมันเนียนตาเหนือคำบรรยาย และยังมีการครอบครองบอลที่สง่างามอีกด้วย
3. บ๊อบบี้ มัวร์
มัวร์ เป็นหนึ่งในกองหลังที่ดีที่สุดที่ทีมชาติอังกฤษเคยมีมา โดยสถิติรับใช้ทัพ “สิงโตคำราม” เกินกว่า 100 เกม ก็แสดงให้เห็นถึงความสำคัญ และความสม่ำเสมอของเจ้าตัวเป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังเคยพาทีมคว้าแชมป์ฟุตโลกในปี 1966 ซึ่งเป็นสมัยเดียวของบรรดาแข้งเลือดผู้ดีจนถึง ณ ปัจจุบัน
2. ฟรังโก บาเรซี
นับตั้งแต่มีกีฬาฟุตบอล อิตาลี เป็นประเทศที่ผลิตกองหลังชั้นนำออกมาได้อย่างสม่ำเสมอ แต่ถ้าคำว่าดีที่สุดต้องยกให้ บาเรซี ที่คู่ควรอย่างแท้จริง โดยผลงานตลอด 20 ปี กับ เอซี มิลาน นั้น ไม่มีใครจะมาเปรียบเทียบได้อีกแล้ว
1. ฟรานซ์ เบ็คเค่นบาวเออร์
มีการถกเถียงกันมาตคลอดว่าใครเก่งที่สุด แต่สำหรับตำนานกองหลังเจ้าของฉายา “จักรพรรดิ” ต้องถูกยกไว้เหนือกว่าผู้เล่นคนอื่นๆ เบ็คเค่นบาวเออร์ ประสบความสำเร็จทุกอย่างในเส้นทางอาชีพทั้งระดับสโมสร และทีมชาติ รวมถึงยังคว้า บัลลงก์ดอร์ ได้ 2 สมัย ซึ่งไม่มีเซ็นเตอร์ฮาล์ฟคนใดทำได้อีกแล้ว