จัดอันดับผู้จัดการทีมที่ดีที่สุดตลอดกาล - RANKED
- ซีรีย์ที่จัดอันดับบุคลากรวงการฟุตบอลที่ว่ากันว่าดีที่สุดตลอดกาล
- ผู้จัดการทีมมีผลอย่างมากต่อความสำเร็จและรากฐานของทีม
- นับถอยหลัง 50 อันดับกับเทรนเนอร์ที่ว่ากันว่าดีที่สุดในโลก
โดย Navapun Munarsa
เรื่องของผู้จัดการทีมเองก็เป็นที่ถกเถียงกันปกติในทุกยุคทุกสมัยเช่นกันว่าใครคือกุนซือที่ดีที่สุดที่โลกนี้เคยมีมา ซึ่งวันนี้เราจึงอยากลองนำคำถามเหล่านั้นมาหาคำตอบในแบบที่ละเอียดมากยิ่งขึ้นกับการจัดอันดับเทรนเนอร์ที่ดีที่สุดตลอดกาล แน่นอนว่ามันอาจจะตรงหรือไม่ตรงใจใครหลาย ๆ คน แต่นี่คือเสน่ห์อย่างหนึ่งของฟุตบอลกับการดีเบตเพื่อแสดงความเห็นที่แตกต่างกันออกมา
ในวงการฟุตบอลทุกยุคทุกสมัย ผู้จัดการทีม ถือว่ามีอิทธิพลอย่างยิ่งที่ทำให้ทีมประสบความสำเร็จกับหน้านี้สั่งการนำทีมไล่ล่าคว้าถ้วยรางวัลรายการต่าง ๆ สร้างรากฐาน แก้เกม รวมทั้งวางแนวทางการเล่น และวันนี้เราจะพาไปพบพวกเขาเหล่านั้นกับ...
ผู้จัดการทีมที่ว่ากันว่าดีที่สุดตลอดกาล
50. วิค บักกิงแฮม
ผู้จัดการทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่คุณอาจไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน โดยเทรนเนอร์ชาวอังกฤษเคยประสบความสำเร็จกับ เวสต์บรอมวิช อัลเบียน และ อาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม และยังเป็นคนที่มอบโอกาสประเดิมสนามให้กับ โยฮัน ครัฟฟ์ ตำนานนักเตะชาวฮอลแลนด์ เมื่อปี 1964 อีกด้วย
49. เคลาดิโอ รานิเอรี่
รานิเอรี จะถูกจดจำตลอดไปในฐานะชายผู้ประสบความสำเร็จอย่างน่าเหลือเชื่อกับ เลสเตอร์ ซึ่งเปลี่ยนจากทีมเต็งที่จะตกชั้นในศึก พรีเมียร์ลีก ซีซัน 2015-16 สู่การคว้าแชมป์แบบหักปากกาเซียนทุกสถาบัน
48. ดิดิเยร์ เดชองส์
แม้ว่าจะไม่ใช่นักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในช่วงที่เขาเล่น หรือเป็นผู้ริเริ่มด้านแท็คติกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในช่วงอาชีพผู้จัดการทีม แต่ เดชองส์ ก็สามารถทำให้ทีมชาติฝรั่งเศสคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 1 สมัย และเข้าชิงดำอีก 1 ครั้ง แต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถผ่านด่าน อาร์เจนตินา ไปได้
47. บิล นิโคลสัน
นิโคลสัน มีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยน ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ จากทีมกลางตารางไปสู่ทีมที่คว้าแชมป์ ดิวิชั่น 1 เมื่อฤดูกาล 1960-61 และตลอดระยะเวลา 16 ปีกับ “ไก่เดือยทอง” เขาพาทีมประสบความสำเร็จมากมาย พร้อมกับได้รัยการยกย่องว่า “มิสเตอร์ท็อตแน่ม”
46. สเวน-โกรัน อีริคสัน
ยอดโค้ชชาวสวีดิช ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่กับ เบนฟิกา ต่อด้วย ลาซิโอ และได้คุมทีมชาติอังกฤษในยุคทองที่มีแข้งฝีเท้าดีมากมาย แต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถพา “สิงโตคำราม” คว้าแชมป์ได้
45. เซอร์ อัลฟ์ แรมซีย์
ตำนานกุนซือชาวอังกฤษ ประสบความสำเร็จในระดับสโมสรกับ อิปสวิช ทาวน์ และเป็นเทรนเนอร์เพียงคนเดียวจนถึง ณ ปัจจุบันที่พาพลพรรค “สิงโตคำราม” คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก
44. อันโตนิโอ คอนเต้
แชมป์ลีกในประเทศทั้งอิตาลีและอังกฤษ ไม่ต้องสงสัยเลยว่า คอนเต้ ยอดเยี่ยมเพียงใด นอกจากนี้ เจ้าตัวยังได้รับการยกย่องว่า เป็นหนึ่งในผู้คิดค้นรูปแบบการเล่น 3-4-3 ยุคใหม่ ที่เต็มไปด้วยความแข็งแกร่ง และเด็ดขาด
43. เคนนี่ ดัลกลิช
สถิติ 169 ประตู จากการลงสนาม 502 นัดในฐานะกองหน้าของ ลิเวอร์พูล ทำให้ ดัลกิลช กลายเป็นที่รักของ “เดอะ ค็อป” ได้ไม่ยาก และในบทบาทผู้จัดการทีมเขาพา “หงส์แดง” คว้าแชมป์ดิวิชั่น 1 ได้ถึง 3 สมัย พา แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก 1 สมัย และพา กลาสโกว์ เซลติก คว้าแชมป์สก็อตแลนด์ 1 สมัย
42. มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี
สำหรับ ยูเวนตุส ยุคใหม่ คอนเต้ ถือเป็นคนวางรากฐานก่อนที่ อัลเลกรี จะเข้ามารับช่วงต่อด้วยการพาทีมกวาดแชมป์ลีก 5 สมัยติดต่อกัน และทำให้ “ม้าลาย” เป็นทีมที่ไม่มีใครอยากเผชิญหน้าด้วย
41. เซอร์ บ็อบบี้ ร็อบสัน
ร็อบสัน ถือเป็นผู้จัดการทีมที่ได้รับความเคารพนับถือ และเป็นที่จดจำมากที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษ หลังจากประสบความสำเร็จอย่างเหลือเชื่อกับ อิปสวิช ทาวน์, บาร์เซโลนา และ ปอร์โต้ รวมถึงยังเป็นไอดอลให้กับกุนซือหลายๆคนอีกด้วย
40. หลุยส์ อาราโกเนส
หนึ่งในผู้จัดการทีมที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอลสเปน อาราโกเนส พา แอตเลติโก มาดริด คว้าแชมป์ลีก 1 สมัย และพาพลพรรค “กระทิงดุ” คว้าแชมป์ยูโร 2008 โดยสิ่งที่น่าจดจำที่สุดคือ เขาเป็นคนให้โอกาส เฟร์นานโด ตอร์เรส ตำนานกองหน้าชาวสแปนิชได้ประเดิมสนาม
39. เฮอร์เบิร์ต แชปแมน
แชมป์ดิวิชั่น 1 กับ ฮัดเดอร์สฟิลด์ 2 สมัย และแชมป์ เอฟเอ คัพ 1 สมัย กับ อาร์เซนอล แชปแมน สมควรอยู่ในการจัดอันดับครั้งนี้
38. คาร์ลอส อัลแบร์โต ปาเรร่า
ไม่มีผู้จัดการทีมคนใดเข้าใจฟุตบอลระดับนานาชาติมากเท่ากับ ปาเรร่า หากมองจากสถิติการคุมทีมลงเล่นฟุตบอลโลก 6 สมัย กับทั้ง คูเวต, ซาอุดีอาระเบีย, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, บราซิล 2 หน และ แอฟริกาใต้ แน่นอนว่า เขามีแชมป์ติดมือ1 หน กับ “เซเลเซา” เมื่อปี 1994
37. ฟรานซ์ เบคเคนบาวเออร์
“เดอร์ ไคเซอร์. เป็นที่จดจำได้ดีที่สุดจากอาชีพการเล่นอันรุ่งโรจน์ของเขา แต่เขาประสบความสำเร็จในการคุมทีมเช่นกันหลังจากพาเยอรมัน คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 1990 และพา บาเยิร์น มิวนิค ครองความยิ่งใหญ่ยาวนานหลายปี
36. วิคเตอร์ มาลอฟ
มาลอฟ อาจเป็นโค้ชที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักในประวัติศาสตร์ฟุตบอล อย่างไรก็ตาม ความสุดยอดของเขายังคงปรากฏให้เห็นจนถึงทุกวันนี้จากการคิดค้นรูปแบบการเล่น 4-4-2 ซึ่งอิทธิพลของเขาควรได้รับการยกย่องมากกว่าที่เป็นอยู่
35. ราฟาเอล เบนิเตซ
มีผู้จัดการทีมเพียงไม่กี่คนที่สามารถทำลายการความยิ่งใหญ่ของ บาร์เซโลนา และ เรอัล มาดริด ในลาลีกาได้ แต่ เบนิเตซ ก็ทำสำเร็จหลังพา บาเลนเซีย คว้าแชมป์ 2 สมัย และแน่นอน ค่ำคืน “อิสตันบลู” ที่คว้าแชมป์ยุโรปกับ ลิเวอร์พูล เมื่อปี 2005 อยู่ในความทรงจำแฟนบอลทั่วโลก
34. ซีเนอดีน ซีดาน
ซีดาน มีอาชีพที่ยังไม่ยาวนานเหมือนกับกุนซือคนอื่นๆ แต่ มาดริด ภายใต้กานนำของ อดีตจอมทัพชาวฝรั่งเศส กลายเป็นสโมสรแรกที่สามารถป้องกันถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้ในรอบ 27 ปี
33. ลุยซ์ เฟลิเป้ สโคลารี่
สโคลารี่ มีความสามารถของเขาในการสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้เล่น และชอบให้ลูกทีมเล่นเกมรุกสนุกสนาน ซึ่งความสำเร็จในการคว้าแชมป์โลกปี 2002 ก็เป็นข้อพิสูจน์เรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี
32. จุ๊ปป์ ไฮย์เกส
ไฮย์เกส เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการคว้า ทริปเปิลแชมป์ ของ บาเยิร์น ในปี 2013 เขาสร้างให้ “เสือใต้” เป็นทีมที่สมบูรณ์แบบทั้งแนวทางการเล่น และแท็คติค
31. บิเซนเต้ เดล บอสเก้
เดล บอสเก้ เป็นผู้จัดการทีมที่ทำให้ผู้เล่นรู้สึกมีความสุข ไว้วางใจ และมั่นใจ นอกจากนี้ ยังเป็นกุนซือที่มีบารมีมากพอในการคุม มาดริด ยุค กาแลคติกอส ที่มีบรรดาแข้งระดับโลกอย่าง ซีดาน, หลุยส์ ฟิโก, โรนัลโด, ราอูล และ โรแบร์โต คาร์ลอส มาแล้ว พ่วงด้วยแชมป์โลกปี 2010 กับ สเปน
30. อาร์แซน เวนเกอร์
อาร์เซนอล เคยเป็นสโมสรที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ และประเพณี แต่มีชายคนหนึ่งที่เปลี่ยนแปลงทุกอย่างของสโมสรไปในทิศทางที่ดึ้น นั่นคือ เวนเกอร์ โดยตลอดเวลา 22 ปี ที่คุมทีม นั้น ยอดโค้ชชาวฝรั่งเศส พาทีมประสบความสำเร็จนับไม่ถ้วน และแชมป์ลีกแบบไร้พ่ายในปี 2003/04 ไม่มีใครลืมแน่นอน
29. อูโด ลาเต็ก
ลาเต็ก ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้จัดการทีมที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ศึก บุนเดสลีกา หลังพา บาเยิร์น มิวนิค คว้าแมป์ลีก 6 สมัย และโบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค คว้าแชมป์ลีก 2 สมัย นอกจากนี้ ผลงานนอกเยอรมัน เจ้าตัวยังพา บาร์เซโลนา คว้าถ้วย ยูโรเปี้ยน คัพ วินเนอร์ส คัพ อีกด้วย
28. จ็อค สไตน์
สไตน์ เข้ามาคุมทีม เซลติก ในปี 1965 ซึ่งอยู่ในช่วงตกต่ำที่สุดครั้งหนึ่งของสโมสร แต่ภายในระยะเวลา 2 ปีเขาพาทีมเป็นแชมป์ยุโรป และเมื่อถึงเวลาที่ต้องออกจากสกอตแลนด์ในอีก 12 ปีต่อมา เขาก็พาทีมคว้าแชมป์ลีกได้ 10 สมัย
27. วิตโตริโอ ปอซโซ
ปอซโซ เป็นหนึ่งในผู้จัดการทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล และเป็นผู้จัดการทีมเพียงคนเดียวในประวัติศาสตร์ที่คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2 สมัยติดต่อกันกับ อิตาลี ในปี 1934 และ 1938
26. มาริโอ ซากัลโล
บราซิล ชุดแชมป์โลกปี 1970 ภายใต้การคุมทีมของ ซากัลโล ได้รับการยกย่องว่า เป็นทีมที่ดีที่สุดตลอดกาลหลังมีนักเตะอย่าง เปเล่, ทอสเทา, ริเวลลิโน และ แจร์ซินโญ่ และโค้ชแซมบ้ารายนี้ เคยคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกสมัยเป็นนักเตะ และกุนซืออย่างละ 2 สมัย
25. เบลา กุตต์มันน์
เบนฟิก้า ไม่เคยได้แชมป์ถ้วยยุโรปมานานเกินกว่า 50 ปีแล้วนับตั้งแต่พวกเขาปฏิเสธที่จะให้สัญญาฉบับใหม่ให้กับ กุตต์มันน์ แค่นี้ก็เพียงพอแล้วที่จะบอกว่า โค้ชชาวออสเตรีย สุดยอดเพียงใด
24. วาเลรี โลบานอฟสกี้
อดีตนักวิทยาศาสตร์ชาวโซเวียตรายนี้เป็นผู้บุกเบิกในด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา และนำแนวคิดที่ว่า ฟุตบอลต้องทำงานเป็นทีมมากกว่าเน้นความสามารถส่วนบุคคล โดยในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 เขาได้รับการยกย่องให้เป็นสัญลักษณ์ประจำชาติในยูเครน
23. อ็อตโต เรฮาเกล
เรฮาเกล เป็นผู้จัดการทีมชาวเยอรมันผู้ยิ่งใหญ่ที่ต้องอับอายกับผลงานในประเทศของตัวเองจากความล้มเหลวที่บาเยิร์น แต่ก่อนจะเกิดหายนะที่ “เสือใต้” เขาเคยพา แวร์เดอร์ เบรเมน คว้าแชมป์บุนเดสลีกา 2 สมัย, เดเอฟเบ โพคาล 2 สมัย และยูฟ่า คัพ วินเนอร์ส คัพ พร้อมกับสร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการพา กรีซ สร้างเทพนิยายคว้าแชมป์ยูโร 2004
22. หลุยส์ ฟาน กัล
ฟาน กัล ได้รับเกียรติให้คุม 4 สโมสรที่มีชื่อเสียงที่สุดในประวัติศาสตร์ของวงกานรฟุตบอลอย่าง อาแจ็กซ์, บาร์เซโลนา, บาเยิร์น และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และสามารถคว้าแชมป์ร่วมกับทั้ง 4 ทีมได้ทั้งหมด และอย่าลืมว่า นักเตะอย่าง คลาเรนซ์ เซดอร์ฟ, แพทริค ไคลเวิร์ต, ชาบี, คาร์เลส ปูโยล อันเดรส อิเนียสต้า, แฟรงค์ เดอ บัวร์, บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ และ โธมัส มุลเลอร์ เขาเป็นคนปลุกปั้น
21. เจอร์เก้น คล็อปป์
หนึ่งในโค้ชที่เก่งที่สุดในเรื่องสร้างแรงจูงใจ และการบริหารคน คล็อปป์ ประสบความสำเร็จอย่างมากในการพา โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ หยุดควมยิ่งใหญ่ของ บาเยิร์น จากนั้น ก็พายักษ์หลับอย่าง ลิเวอร์พูล กลับสู่การเป็นมหาอำนาจอีกครั้ง
20. เทเล ซานตาน่า
ในช่วงที่คุมทีมชาติบราซิล ซานตาน่า ไม่ได้พาทีมคว้าแชมป์รายการใดมาครองได้เลย แต่เขาทำให้ “เซเลเซา” มีสไตล์การเล่นที่น่าประทับใจอย่างมาก และระดับสโมสรก็ช่วยสร้างให้ เซา เปาโล กลายให้เป็นหนึ่งในทีมที่ดีที่สุดในโลก
19. บิล แชงคลี
พูดง่ายๆ ก็คือ ลิเวอร์พูล จะไร้ถ้วยแชมป์ทั้งใน และนอกประเทศมาจนถึงวันนี้หากไม่มีกระบวนการสร้างรากฐานตลอดระยะเวลา 16 ปี ของ แชงคลีย์ ที่ แอนฟิลด์ ซึ่งไม่น่าแปลกใจที่เขาได้รับการยกย่องว่า เป็นหนึ่งในกุนซือที่ดีที่สุดตลอดกาลของ “หงส์แดง”
18. ออตต์มาร์ ฮิตซ์เฟลด์
แชมป์บุนเดสลีกา 2 สมัย กับ ดอร์ทมุนด์ และ 5 สมัยกับ บาเยิร์น พ่วงถ้วยแชมป์ยุโป 1 สมัย ฮิตซ์เฟลด์ คือตำนานของวงการฟุตบอลเยอรมัน
17. มิเกล มูนอซ
มูนอซ น่าจะเป็นผู้จัดการทีมที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาของ มาดริด หลังเคยพาทีมคว้าแชมป์ ลา ลีกา ได้มากถึง 9 สมัย
16. ฟาบิโอ คาเปลโล
คาเปลโล นำความสำเร็จอันยิ่งใหญ่มาสู่ เอซี มิลาน และตลอดเส้นทางการเป็นผู้จัดการทีมนั้น เขาคว้าแชมป์มาแล้วแทบทุกรายการ
15. ไบรอัน คลัฟ
สุดยอดตำนานโค้ช น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ยุครุ่งเรือง คลัฟ พาพลพรรค “เจ้าป่า” สร้างความน่าเกรงขามทั้งในเกาะอังกฤษ และยุโรป ซึ่งเวลานั้น แทบไม่มีใครหยุดทีมของเขาได้เลย
14. เนเรโอ ร็อคโค
ร็อคโค ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่กับ มิลาน ด้วยการพาทีมคว้าแชมป์แทบทุกรายการทั้ง เซเรีย อา, โคปา อิตาเลีย, ยูโรเปียนคัพ และ ยูฟา คัพ วินเนอร์ส คัพ
13. เซอร์ แมตต์ บัสบี
บัสบี เข้ามาคุม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 1945 และสามารถพาทีมหลีกเลี่ยงการล้มละลายได้อย่างหวุดหวิด นอกจากนี้ยังพา “ปีศาจแดง” คว้าแชมป์ดิวิขั่น 1 ได้ถึง 5 สมัย และแชมป์ยุโรป 1 สมัย พร้อมกับได้รับการยกย่องว่า เป็นบุคคลสำคัญที่วางรากฐานของสโมสรมาจนถึงปัจจุบัน
12. มาร์เชลโล ลิปปี้
ในยุค 90 ยูเวนตุส ภายใต้การนำของ ลิปปี้ เป็นทีมที่แข็งแกร่งสุดๆ และไม่มีใครอยากเผชิญหน้าด้วย และเจ้าตัวยังเป็นคนพาอิตาลีคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกในรอบ 24 ปีได้อีกด้วย
11. คาร์โล อันเชล็อตติ
หนึ่งในยอดกุนซือที่มีทักษะการบริหารคนได้ดีที่สุด อันเชล็อตติ เป็นที่รักของลูกทีมเสมอไม่ว่าจะคุมสโมสรใดก็ตาม และถึงเป็นหนึ่งในโค้ชที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดใน 2 ทษวรรษที่ผ่านมา
10. บ็อบ เพสลีย์
แชงคลี สร้างความสำเร็จให้ ลิเวอร์พูล ตลอดช่วงทศวรรษที่ 70 - 80 และ เพสลีย์ ก็เข้ามารับช่วงต่อ โดยตลอด 9 ปีกับ “หงส์แดง” เขาคว้าแชมป์ลีกได้ 6 สมันย และแชมป์ยุโรป 3 สมัย
9. โชเซ่ มูรินโญ่
ไม่ว่าคุณจะรักหรือเกลียดเขา มูรินโญ่ ได้พิสูจน์แล้วว่า เป็นหนึ่งในผู้จัดการทีมที่ทรงอิทธิพลที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอล เขาพาทีมอย่าง ปอร์โต้ คว้าแชมป์ยุโรปได้อย่างน่าเหลือเชื่อ ก่อนจะไปโกยความสำเร็จกับ เชลซี, อินเตอร์, มาดริด และ แมนฯ ยูไนเต็ด
8. เฮเลนิโอ เอร์เรรา
เอร์เรรา ทำผลงานได้อย่างสุดยอดกับ แอตเลติโก มาดริด และ บาร์เซโลน่า ในสเปน ก่อนจะมาสร้าง อินเตอร์ ไปสู่ความยิ่งใหญ่ นอกจากนี้ เจ้าตัวยังได้รับการยกย่องว่า เป็นเจ้าแห่งสงครามจิตวิทยา
7. เอิร์นส์ แฮพเพล
แฮพเพล เป็นคนปฏิวัติเกมฟุตบอล และเป็นแรงบันดาลใจให้กับหลายๆทีมในทศวรรษ 1970 และเทรนเนอร์ชาวออสเตรียรายนี้ก็เป็นคนแรกๆที่เลือกทดลองใช้ระบบ 4-3-3 และ 4-2-4
6. โยฮันน์ ครัฟฟ์
ครัฟฟ์ สร้างดรีมทีมที่ บาร์เซโลนา ซึ่งครองความยิ่งใหญ่ของวงการฟุตบอลสเปน และยุโรป โดยผสมผสานระหว่างนักเตะท้องถิ่น และ สตาร์ระดับโลก ได้ย่าวลงตัว และเป็นคนบุกเบิกศูนย์ฝึกเยาวชน ลา มาเซีย อันโด่งดัง
5. จิโอวานนี่ ตราปัตโตนี่
แชมป์ลีกกับ อินเตอร์, ยูเวนตุส, มิลาน, บาเยิร์น และ เบนฟิกา ไม่ต้องมีคำบรรยายมากสำหรับอดีตยอดเทรนเนอร์เลือดมะกะโรนีรายนี้
4. เป๊ป กวาร์ดิโอล่า
กวาร์ดิโอล่า เป็นหนึ่งในกุนซือไม่กี่คนที่คว้าแชมป์ ลา ลีกา, บุนเดสลีกา, พรีเมียร์ลีก และ ยูฟ่า เปี้ยนส์ลีก ซึ่งแทบไม่มีใครจะล้มสถิติของเจ้าตัวได้เลย นอกจากนี้ เขายังมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาผู้เล่นอย่าง ลิโอเนล เมสซี, อันเดรส อิเนียสต้า และเควิน เดอ บรอยน์
3. รินัส มิเชลส์
ผู้จัดการทีมฟุตบอลที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโลกเท่าที่เคยมีมา มิเชลส์ เป็นผู้บุกเบิก Total Football อันโด่งดัง ซึ่งไม่มีมรดกใดจะยิ่งใหญ่ไปกว่านั้นอีกแล้ว เนื่องจากเป็นรูปแบบของการเล่นฟุตบอลที่ได้รับการยกย่อง และถือว่า ครอบคลุมทุกสิ่งที่ยอดเยี่ยมเกี่ยวกับเกมลูกหนัง
2. อาริโก ซาคคี่
ซาคคี่ ต้องการให้ทีมของเขาเล่นฟุตบอลที่ลื่นไหล ซึ่งทำให้ผู้ชมที่ชื่นชอบอ้าปากค้างด้วยความทึ่งกับสิ่งที่พวกเขาได้เห็นในระหว่างปี 1987 ถึง 1991 และตำนานโค้ชชาวอิตาเลียนรายนี้ได้รับการยกย่องว่า เป็นคนเปลี่ยนแปลงเกมฟุตบอลไปตลอดกาล
1. เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
แมนฯ ยูไนเต็ด คงไม่ใช่สโมสรที่ยิ่งใหญ่อย่างทุกวันนี้หากไม่มีชายชื่อ เฟอร์กูสัน และการคว้าถ้วยรางวัลใหญ่ 28 รายการตลอด 27 ปีที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด นั้น บ่งบอกทุกอย่างได้เป็นอย่างดี