จัดอันดับเพลย์เมคเกอร์ที่ดีที่สุดตลอดกาล - RANKED
- ซีรีย์ที่จัดอันดับนักเตะที่ดีที่สุดในโลกตลอดกาลในแต่ละตำแหน่ง
- กองกลาวตัวรุกเป็นอีกหนึ่งตำแหน่งที่สำคัญกับเกมฟุตบอลทุกยุคทุกสมัย
- นับถอยหลัง 25 อันดับกับเพลย์เมคเกอร์ที่ว่ากันว่าดีที่สุดตลอดกาล
โดย Navapun Munarsa
เป็นที่ถกเถียงกันปกติในทุกยุคทุกสมัยว่านักเตะคนใดคือแข้งที่ดีที่สุดตลอดกาลที่โลกนี้เคยมีมา ซึ่งวันนี้เราจึงอยากลองนำคำถามเหล่านั้นมาหาคำตอบในแบบที่ละเอียดมากยิ่งขึ้นกับการจัดอันดับนักเตะที่ดีที่สุดตลอดกาลในแต่ละตำแหน่ง แน่นอนว่ามันอาจจะตรงหรือไม่ตรงใจใครหลาย ๆ คน แต่นี่คือเสน่ห์อย่างหนึ่งของฟุตบอลกับการดีเบตเพื่อแสดงความเห็นที่แตกต่างกันออกมา
เทคนิค, วิสัยทัศน์, การอ่านเกม, การครองบอล, การผ่านบอล และการสร้างสรรค์เกม เป็นหน้าที่หลักของมิดฟิลด์ตัวรุกที่ต้องทำในสนาม ซึ่งพวกเขาเปรียบเสมือนมันสมองที่คอยกำหนดทิศทางการเล่นของทีม แน่นอนว่าตำแหน่งนี้มักจะถูกจับตามองเป็นพิเศษทำให้หลาย ๆ คนสามารถก้าวขึ้นมาเป็นที่รู้จักและกลายเป็นตำนานของวงการไปเป็นที่เรียบร้อย โดยวันนี้เราจะพาไปนับถอยหลังกับ..
เพลย์เมคเกอร์ที่ดีที่สุดในโลกตลอดกาล !
25. เควิน เดอ บรอยน์
มิดฟิลด์ทีมเบลเยียม ก้าวเข้ามาเป็นคีย์แมนของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในยุคกุนซือ เป็ป กวาร์ดิโอล่า นับตั้งแต่ย้ายมาจาก โวล์ฟบวร์ก เมื่อปี 2015 และปัจจุบันในวัย 32 ปี เดอ บรอยน์ คือ หนึ่งในสิบนักเตะที่ดีที่สุดในโลกอย่างไม่ต้องสงสัย
24. จอร์จี ฮาจี
ฮาจี เป็นตำนานนักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโรมาเนีย และไม่เพียงแต่เป็นแชมป์ลีก 3 สมัยกับ สเตอัว บูคาเรสต์ในประเทศบ้านเกิด เท่านั้น เขายังได้รับเลือกให้เป็นนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีรวมทั้งหมด 7 สมัย ในช่วงปลายยุค 80 นอกจากนี้ ยังคว้าแชมป์หลายรายการกับสโมสรอย่าง บาร์เซโลนา, เรอัล มาดริด และ กาลาตาซาราย อีกด้วย
23. ฟรานเชสโก ต๊อตติ
ต๊อตติ เป็นอีกหนึ่ง วัน แมน คลับ ของวงการฟุตบอลหลังจากค้าแข้งกับ โรม่า มานานถึง 25 ปี โดยดาวเตะเจ้าของฉายา “ราชาหมาป่า” ประสบความสำเร็จด้วยการคว้าแชมป์ เซเรีย อา 1 สมัย และแชมป์ฟุตบอลโลก 2006 กับทีมชาติอิตาลี 1 สมัย
22. คลาเรนซ์ ซีดอร์ฟ
อดีตกองกลางทีมชาติฮอลแลนด์ เป็นนักเตะคนแรกที่คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ 3 สโมสรที่แตกต่างกัน ประกอบด้วย อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม, เรอัล มาดริด และ เอซี มิลาน ซึ่งผลงานที่คงเส้นคงวาตลอดอาชีพก็ทำให้ ซีดอร์ฟ เป็นหนึ่งในนักเตะที่สมควรได้รับคำยกย่อง
21. ฮวน โรมัน ริเกลเม
ริเกลเม เป็นตำนานของ โบคา จูเนียร์ส หลังจากพาทีมคว้าแชมป์หลายรายการ แต่น่าเสียดายที่เจ้าตัวไม่ประสบความสำเร็จบนแผ่นดินยุโรปมากนักสมัยค้าแข้งกับ บาร์เซโลน่า แต่เขาก็ยังแสดงให้เห็นถึงความสุดยอดได้ในระหว่างเล่นกับ บียาร์เรอัล
20. เมซุต โอซิล
ชาลเก้ 04, แวร์เดอร์ เบรเมน, เรอัล มาดริด, อาร์เซนอล และ เฟเนร์บาห์เช่ คือ สโมสรที่ โอซิล เคยเล่นให้ และในปี 2014 อดีตจอมทัพทีมชาตคิเยอรมัน ถือเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้พลพรรค “อินทรเห็ลก” คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกไปครองได้สำเร็จ
19. จานนี ริเวร่า
ริเวร่า ใช้เวลาเกือบทั้งอาชีพค้าแข้งกับ เอซี มิลาน และเป็นหนึ่งในตำนานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของสโมสร และนอกเหนือจากการคว้าแชมป์ระดับชาติหลายรายการแล้ว เขายังคว้าแชมป์ถ้วยยุโรป 2 สมัยกับ “รอสโซเนรี” รวมถึงคว้า บัลลงดอร์ ในปี 1969 อีกด้วย
18. โธมัส มุลเลอร์
มุลเลอร์ อาจไม่ใช่เพลย์เมคเกอร์จอมเทคนิคที่สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนบอลมากนัก แต่ประสิทธิภาพในการเล่นได้ทุกตำแหน่งในแนวรุก สัญชาตญาณ และความเฉียบขาดในการจบสกอร์ของเจ้าตัว นั้น ก็ยากที่จะหาใครลอกเลียนแบบ
17. พาเวล เนดเวด
เจ้าของรางวัล บัลลงดอร์ 2003 ใช้เวลาส่วนใหญ่เล่นในประเทศบ้านเกิดอย่างสาธารณรัฐเช็ก และในอิตาลี และถือเป็นนักฟุตบอลที่มีความจงรักภักดีมากที่สุดหลังจากยอมตกชั้นไปเล่นใน เซเรีย บี กับ ยูเวนตุส ก่อนจะพา “ม้าลาย” เลื่อนชั้นกลับขึ้นมาได้สำเร็จ
16. ลูก้า โมดริช
ในปี 2018 อาชีพของ โมดริช ถึงจุดสูงสุด หลังจากคว้ารองแชมป์ฟุตบอลโลกกับ โครเอเชีย รวมถึงคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และแชมป์สโมสรโลก สมัยที่ 4 กับ เรอัล มาดริด อีกด้วย รวมถึงยังก้าวไปคว้ารางวัล บัลลงดอร์ ได้อย่างน่าประทับใจ
15. อันเดรีย ปิร์โล่
จอมทัพสุดคลาสสิกรายนี้มักจะยืนบัญชาการหน้าแผงแบ็คโฟร์มากกว่าจะขยับไปเล่นหลังกองหน้า โดย ปิร์โล่ เป็นนักฟุตบอลที่เต็มไปด้วยทักษะ มันสมอง วิสัยทัศน์ และเทคนิคชั้นยอด นอกจากนี้ เจ้าตัวยังประสบความสำเร็จกับทีมชาติอิตาลี, มิลาน และ ยูเวนตุส แบบนับไม่ถ้วน
14. ชาบี
ชาบี ก้าวจากทีมเยาวชนขึ้นมาจนกลายเป็นตำนานของ บาร์เซโลน่า โดยลงเล่นให้ “เจ้าบุญทุ่ม” ไปมากกว่า 700 เกม และพาทีมกวาดแชมป์มากมาย รวมถึงเป็นคีย์แมนในทีมชาติสเปนชุดแชมป์ฟุตบอลโลก และแชมป์ยูโร อีกด้วย โดยปัจจุบันในวัย 44 ปี เจ้าตัวยังรับหน้าที่กุมบังเหียนในถิ่น คัมป์ นู
13. อันเดรส อิเนียสต้า
อิเนียสต้า เดินตามหลัง ชาบี มาติดๆ และก็มีเส้นทางคล้ายกัน โดยเวลานี้ ในวัย 39 ปี อดีตกองกลางดีกรีทีมชาติสเปน 131 เกม ยังโลดแล่นในสนามกับ เอมิเรตส์ สโมสรในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
12. โวล์ฟกัง โอเวอร์อาธ
เมื่อคุณนึกถึงทีมชาติเยอรมันชุดแชมป์โลกปี 1974 นักเตะอย่าง แกร์ด มุลเลอร์, ฟรานซ์ เบ็คเค่นบาวเออร์ และเซปป์ ไมเออร์ อาจถูกมองว่า เป็นผู้เล่นตัวหลัก แต่ โอเวอร์อาธ ก็เป็นอีกหนึ่งบุคคลสำคัญที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของทัพ “อินทรีเหล็ก” ในเวลานั้น
11. กันเตอร์ เน็ตเซอร์
เน็ตเซอร์ เคยคว้าแชมป์ลีกเยอรมัน 2 สมัยกับ โบรุสเซีย มึนเชนกลัดบลัค ก่อนจะย้ายไปคว้าแชมป์ลีกสเปนกับ เรอัล มาดริด 2 สมัย พร้อมกับคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก และแชมป์ยูโร ร่วมกับทีมชาติเยอรมัน อย่างละ 1 สมัย
10. ซิโก้
ในยุค 70 - 80 ซิโก้ เป็นหนึ่งในนักเตะซุเปอร์สตาร์ชาวบราซิลที่ยิ่งใหญ่ที่สุด โดยอดีตดาวเตะเจ้าของฉายา “เปเล่ขาว” ติดทัพ “เซเลเซา” 72 นัด ซัดไป 52 ประตู และประสบความสำเร็จในบ้านเกิดกับ ฟลาเมงโก ด้วยการคว้าแชมป์ลีกถึง 7 สมัย
9. ไมเคิล เลาดรูป
เลาดรูป ได้รับการโหวตให้เป็นนักฟุตบอลชาวเดนมาร์กที่ดีที่สุดตลอดกาลในปี 2006 โดยเพลย์เมกเกอร์รายนี้ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในสมัยที่เขาอยู่กับ บาร์เซโลน่า ในปี 1898-1994 ซึ่งได้รับเลือกให้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำซีซันถึง 2 หน และไม่เพียงแต่เป็นแชมป์ ลา ลีกา 4 สมัย กับ “เจ้าบุญทุ่ม” เท่านั้น เจ้าตัวยังพา มาดริด คว้าแชมป์ลีก 1 สมัย อีกด้วย
8. กาก้า
นอกจาก โรนัลดินโญ่แล้ว กาก้า ถือเป็นเพลย์เมกเกอร์ผู้ยิ่งใหญ่คนสุดท้ายที่บราซิลผลิตออกมา โดยหนึ่งปีหลังจากคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกปี 2002 เขาก็ย้ายไปโกยความสำเร็จกับ มิลาน และก้าวไปสู่จุดสูงสุดด้วยการคว้ารางวัล บัลลงดอร์ ในปี 2007
7. ริเวลิโน
เช่นเดียวกับ เปเล่ ริเวลิโน ไม่เคยเล่นในยุโรป ซึ่งเป็นเหตุผลว่า ทำไมเขาถึงไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากนัก อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ไม่ได้เปลี่ยนความจริงที่ว่า อดีตจอมทัพชาวบราซิลรายนี้เป็นหนึ่งในตำนานฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในแดนแซมบ้า หลังยิงไป 26 ประตู จากการลงเล่น 93 นัดให้กับทีมชาติ และพาทีมคว้าแชมป์โลกในปี 1970
6. ริวัลโด้
ริวัลโด้ มีช่วงเวลาที่ดีกับ บาร์เซโลน่า ในปี 1997 - 2002 และยังเคยพาบราซิลคว้าแชมป์ โคปา อเมริกา ปี 1999 และแชมป์ ฟุตบอลโลกปี 2002 รวมถึงยังคว้ารางวัล บัลลงดอร์ มาแล้ว 1 ครั้ง
5. โรนัลดินโญ่
โรนัลดินโญ่ เป็นหนึ่งในนักเตะที่มีพรสวรรค์มากท่สุดในโลก และแฟนฟุตบอลทุกคนต่างก็หลงรักเขาอยู่เสมอ แลจุดพีคที่สุดของเจ้าตัวเกิดขึ้นในปี 2002 ที่พาบราซิล คว้าแชมป์โลก และในปี 2005/06 พา บาร์เซโลนา คว้าทริปเปิลแชมป์ได้อย่างยิ่งใหญ่
4. มิเชล พลาตินี
อดีตประธานยูฟ่า และเจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ 3 สมัยคือ หนึ่งในนักฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลในช่วงทศวรรษ 1980 โดยผลงานความสำเร็จกับทีมชาติฝรั่งเศส และ ยูเวนตุส ก็สมควรแล้วที่ พลาตินี จะได้รับฉายาว่า “นโปเลียนลูกหนัง”
3. ซีเนอดีน ซีดาน
ซีดาน ประสบความสำเร็จอย่างสูงสุดสมัยที่เล่นให้กับ ยูเวนตุส และเรอัล มาดริด รวมทั้งทีมชาติฝรั่งเศส และไม่มีแฟนบอลคนใดที่ไม่เพลิดเพลินกับสไตล์การเล่นของอดีตเพลย์เมคเกอร์เฟรนช์แมนคนนี้
2. โยฮัน ครัฟฟ์
ครัฟฟ์ ได้รับการยกย่องว่า เป็นนักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลของฮอลแลนด์ โดยความสำเร็จกับ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม และ บาร์เซโลนา ก็บ่องบอกทุกอย่างได้เป็นอย่างดีสำหรับสุดยอดตำนานชาวดัตช์คนนี้
1. ดิเอโก้ มาราโดน่า
สุดยอดนักเตะที่ดีที่สุดตลอดกาลของวงการฟุตบอล และอาร์เจนติน่า มาราโดน่า เปรียบเสมือนเทพเจ้าของคนในบ้านเกิด รวมถึงสโมสรอย่าง นาโปลี และยังเป็นไอดอลของนักฟุตบอลเลือด “ฟ้าขาว” หลายๆคน ซึ่งไม่น่าแปลกใจเลยกับสิ่งที่เจ้าตัวทำเพื่อประเทศ