จัดอันดับเพลย์เมคเกอร์ที่ดีที่สุดตลอดกาล - RANKED

  • ซีรีย์ที่จัดอันดับนักเตะที่ดีที่สุดในโลกตลอดกาลในแต่ละตำแหน่ง
  • กองกลาวตัวรุกเป็นอีกหนึ่งตำแหน่งที่สำคัญกับเกมฟุตบอลทุกยุคทุกสมัย 
  • นับถอยหลัง 25 อันดับกับเพลย์เมคเกอร์ที่ว่ากันว่าดีที่สุดตลอดกาล
Soccer -2006 FIFA World Cup Quarterfinals - Brazil vs. France
Soccer -2006 FIFA World Cup Quarterfinals - Brazil vs. France / sampics/GettyImages
facebooktwitterreddit

เป็นที่ถกเถียงกันปกติในทุกยุคทุกสมัยว่านักเตะคนใดคือแข้งที่ดีที่สุดตลอดกาลที่โลกนี้เคยมีมา ซึ่งวันนี้เราจึงอยากลองนำคำถามเหล่านั้นมาหาคำตอบในแบบที่ละเอียดมากยิ่งขึ้นกับการจัดอันดับนักเตะที่ดีที่สุดตลอดกาลในแต่ละตำแหน่ง แน่นอนว่ามันอาจจะตรงหรือไม่ตรงใจใครหลาย ๆ คน แต่นี่คือเสน่ห์อย่างหนึ่งของฟุตบอลกับการดีเบตเพื่อแสดงความเห็นที่แตกต่างกันออกมา

เทคนิค, วิสัยทัศน์, การอ่านเกม, การครองบอล, การผ่านบอล และการสร้างสรรค์เกม เป็นหน้าที่หลักของมิดฟิลด์ตัวรุกที่ต้องทำในสนาม ซึ่งพวกเขาเปรียบเสมือนมันสมองที่คอยกำหนดทิศทางการเล่นของทีม แน่นอนว่าตำแหน่งนี้มักจะถูกจับตามองเป็นพิเศษทำให้หลาย ๆ คนสามารถก้าวขึ้นมาเป็นที่รู้จักและกลายเป็นตำนานของวงการไปเป็นที่เรียบร้อย โดยวันนี้เราจะพาไปนับถอยหลังกับ..

เพลย์เมคเกอร์ที่ดีที่สุดในโลกตลอดกาล !


25. เควิน เดอ บรอยน์

Kevin De Bruyne
Manchester City v Wolverhampton Wanderers - Premier League / Matt McNulty/GettyImages

มิดฟิลด์ทีมเบลเยียม ก้าวเข้ามาเป็นคีย์แมนของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในยุคกุนซือ เป็ป กวาร์ดิโอล่า นับตั้งแต่ย้ายมาจาก โวล์ฟบวร์ก เมื่อปี 2015 และปัจจุบันในวัย 32 ปี เดอ บรอยน์ คือ หนึ่งในสิบนักเตะที่ดีที่สุดในโลกอย่างไม่ต้องสงสัย

24. จอร์จี ฮาจี

BARCELONA V COMPOSTELLA HAGI
BARCELONA V COMPOSTELLA HAGI / Clive Brunskill/GettyImages

ฮาจี เป็นตำนานนักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโรมาเนีย และไม่เพียงแต่เป็นแชมป์ลีก 3 สมัยกับ สเตอัว บูคาเรสต์ในประเทศบ้านเกิด เท่านั้น เขายังได้รับเลือกให้เป็นนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีรวมทั้งหมด 7 สมัย ในช่วงปลายยุค 80 นอกจากนี้ ยังคว้าแชมป์หลายรายการกับสโมสรอย่าง บาร์เซโลนา, เรอัล มาดริด และ กาลาตาซาราย อีกด้วย

23. ฟรานเชสโก ต๊อตติ

Francesco Totti
Italy V Netherlands, UEFA Euro 2000 Semi Final / Sportsphoto/Allstar/GettyImages

ต๊อตติ เป็นอีกหนึ่ง วัน แมน คลับ ของวงการฟุตบอลหลังจากค้าแข้งกับ โรม่า มานานถึง 25 ปี โดยดาวเตะเจ้าของฉายา “ราชาหมาป่า” ประสบความสำเร็จด้วยการคว้าแชมป์ เซเรีย อา 1 สมัย และแชมป์ฟุตบอลโลก 2006 กับทีมชาติอิตาลี 1 สมัย

22. คลาเรนซ์ ซีดอร์ฟ

Clarence Seedorf
Chievo Verona v AC Milan - Serie A / Etsuo Hara/GettyImages

อดีตกองกลางทีมชาติฮอลแลนด์ เป็นนักเตะคนแรกที่คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ 3 สโมสรที่แตกต่างกัน ประกอบด้วย อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม, เรอัล มาดริด และ เอซี มิลาน ซึ่งผลงานที่คงเส้นคงวาตลอดอาชีพก็ทำให้ ซีดอร์ฟ เป็นหนึ่งในนักเตะที่สมควรได้รับคำยกย่อง

21. ฮวน โรมัน ริเกลเม

Juan Riquelme, Geremi
Juan Riquelme, Geremi / Shaun Botterill/GettyImages

ริเกลเม เป็นตำนานของ  โบคา จูเนียร์ส หลังจากพาทีมคว้าแชมป์หลายรายการ แต่น่าเสียดายที่เจ้าตัวไม่ประสบความสำเร็จบนแผ่นดินยุโรปมากนักสมัยค้าแข้งกับ บาร์เซโลน่า แต่เขาก็ยังแสดงให้เห็นถึงความสุดยอดได้ในระหว่างเล่นกับ บียาร์เรอัล

20. เมซุต โอซิล

Mezut Ozil
Real Zaragoza v Real Madrid - La Liga / Angel Martinez/GettyImages

ชาลเก้ 04, แวร์เดอร์ เบรเมน, เรอัล มาดริด, อาร์เซนอล และ เฟเนร์บาห์เช่ คือ สโมสรที่ โอซิล เคยเล่นให้ และในปี 2014 อดีตจอมทัพทีมชาตคิเยอรมัน ถือเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้พลพรรค “อินทรเห็ลก” คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกไปครองได้สำเร็จ

19. จานนี ริเวร่า

Gianni Rivera
AS Photo Archive / Alessandro Sabattini/GettyImages

ริเวร่า ใช้เวลาเกือบทั้งอาชีพค้าแข้งกับ เอซี มิลาน และเป็นหนึ่งในตำนานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของสโมสร และนอกเหนือจากการคว้าแชมป์ระดับชาติหลายรายการแล้ว เขายังคว้าแชมป์ถ้วยยุโรป 2 สมัยกับ “รอสโซเนรี” รวมถึงคว้า บัลลงดอร์ ในปี 1969 อีกด้วย

18. โธมัส มุลเลอร์

Bayern Munich vs CSKA Moscow
Bayern Munich vs CSKA Moscow / Anadolu/GettyImages

มุลเลอร์ อาจไม่ใช่เพลย์เมคเกอร์จอมเทคนิคที่สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนบอลมากนัก แต่ประสิทธิภาพในการเล่นได้ทุกตำแหน่งในแนวรุก สัญชาตญาณ และความเฉียบขาดในการจบสกอร์ของเจ้าตัว นั้น ก็ยากที่จะหาใครลอกเลียนแบบ

17. พาเวล เนดเวด

Pavel Nedved
Juventus v AC Milan / Giuseppe Cacace/GettyImages

เจ้าของรางวัล บัลลงดอร์ 2003 ใช้เวลาส่วนใหญ่เล่นในประเทศบ้านเกิดอย่างสาธารณรัฐเช็ก และในอิตาลี และถือเป็นนักฟุตบอลที่มีความจงรักภักดีมากที่สุดหลังจากยอมตกชั้นไปเล่นใน เซเรีย บี กับ ยูเวนตุส ก่อนจะพา “ม้าลาย” เลื่อนชั้นกลับขึ้นมาได้สำเร็จ

16. ลูก้า โมดริช

TOPSHOT-FBL-FRA-BALLONDOR-GALA
TOPSHOT-FBL-FRA-BALLONDOR-GALA / FRANCK FIFE/GettyImages

ในปี 2018 อาชีพของ โมดริช ถึงจุดสูงสุด หลังจากคว้ารองแชมป์ฟุตบอลโลกกับ โครเอเชีย รวมถึงคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และแชมป์สโมสรโลก สมัยที่ 4 กับ เรอัล มาดริด อีกด้วย รวมถึงยังก้าวไปคว้ารางวัล บัลลงดอร์ ได้อย่างน่าประทับใจ

15. อันเดรีย ปิร์โล่

Andrea Pirlo
Juventus v FC Copenhagen - UEFA Champions League / Valerio Pennicino/GettyImages

จอมทัพสุดคลาสสิกรายนี้มักจะยืนบัญชาการหน้าแผงแบ็คโฟร์มากกว่าจะขยับไปเล่นหลังกองหน้า โดย ปิร์โล่ เป็นนักฟุตบอลที่เต็มไปด้วยทักษะ มันสมอง วิสัยทัศน์ และเทคนิคชั้นยอด นอกจากนี้ เจ้าตัวยังประสบความสำเร็จกับทีมชาติอิตาลี, มิลาน และ ยูเวนตุส แบบนับไม่ถ้วน

14. ชาบี

FBL-EUR-C1-REAL MADRID-BARCELONA
FBL-EUR-C1-REAL MADRID-BARCELONA / DANI POZO/GettyImages

ชาบี ก้าวจากทีมเยาวชนขึ้นมาจนกลายเป็นตำนานของ บาร์เซโลน่า โดยลงเล่นให้ “เจ้าบุญทุ่ม” ไปมากกว่า 700 เกม และพาทีมกวาดแชมป์มากมาย รวมถึงเป็นคีย์แมนในทีมชาติสเปนชุดแชมป์ฟุตบอลโลก และแชมป์ยูโร อีกด้วย โดยปัจจุบันในวัย 44 ปี เจ้าตัวยังรับหน้าที่กุมบังเหียนในถิ่น คัมป์ นู

13. อันเดรส อิเนียสต้า

Andres Iniesta
Vissel Kobe v Barcelona - Pre-Season Friendly / Koji Watanabe/GettyImages

อิเนียสต้า เดินตามหลัง ชาบี มาติดๆ และก็มีเส้นทางคล้ายกัน โดยเวลานี้ ในวัย 39 ปี อดีตกองกลางดีกรีทีมชาติสเปน 131 เกม ยังโลดแล่นในสนามกับ เอมิเรตส์ สโมสรในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

12. โวล์ฟกัง โอเวอร์อาธ

Wolfgang Overath
Wolfgang Overath West Germany 1973 / Getty Images/GettyImages

เมื่อคุณนึกถึงทีมชาติเยอรมันชุดแชมป์โลกปี 1974 นักเตะอย่าง แกร์ด มุลเลอร์, ฟรานซ์ เบ็คเค่นบาวเออร์ และเซปป์ ไมเออร์ อาจถูกมองว่า เป็นผู้เล่นตัวหลัก แต่ โอเวอร์อาธ ก็เป็นอีกหนึ่งบุคคลสำคัญที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของทัพ “อินทรีเหล็ก” ในเวลานั้น

11. กันเตอร์ เน็ตเซอร์

FBL-GER-HALLOF FAME
FBL-GER-HALLOF FAME / INA FASSBENDER/GettyImages

เน็ตเซอร์ เคยคว้าแชมป์ลีกเยอรมัน 2 สมัยกับ โบรุสเซีย มึนเชนกลัดบลัค ก่อนจะย้ายไปคว้าแชมป์ลีกสเปนกับ เรอัล มาดริด 2 สมัย พร้อมกับคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก และแชมป์ยูโร ร่วมกับทีมชาติเยอรมัน อย่างละ 1 สมัย

10. ซิโก้

Arthur Antunes Coimbra, Zico
AS Photo Archive / Alessandro Sabattini/GettyImages

ในยุค 70 - 80 ซิโก้ เป็นหนึ่งในนักเตะซุเปอร์สตาร์ชาวบราซิลที่ยิ่งใหญ่ที่สุด โดยอดีตดาวเตะเจ้าของฉายา “เปเล่ขาว” ติดทัพ “เซเลเซา” 72 นัด ซัดไป 52 ประตู และประสบความสำเร็จในบ้านเกิดกับ ฟลาเมงโก ด้วยการคว้าแชมป์ลีกถึง 7 สมัย

9. ไมเคิล เลาดรูป

Michael Laudrup
UEFA Euro '96 - Croatia v Denmark, Group Stage (Group D) / Stewart Kendall/Allstar/GettyImages

เลาดรูป ได้รับการโหวตให้เป็นนักฟุตบอลชาวเดนมาร์กที่ดีที่สุดตลอดกาลในปี 2006 โดยเพลย์เมกเกอร์รายนี้ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในสมัยที่เขาอยู่กับ บาร์เซโลน่า ในปี 1898-1994 ซึ่งได้รับเลือกให้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำซีซันถึง 2 หน และไม่เพียงแต่เป็นแชมป์ ลา ลีกา 4 สมัย กับ “เจ้าบุญทุ่ม” เท่านั้น เจ้าตัวยังพา มาดริด คว้าแชมป์ลีก 1 สมัย อีกด้วย

8. กาก้า

TOPSHOT-FBL-ITA-ACMILAN-SIENA
TOPSHOT-FBL-ITA-ACMILAN-SIENA / GIUSEPPE CACACE/GettyImages

นอกจาก โรนัลดินโญ่แล้ว กาก้า ถือเป็นเพลย์เมกเกอร์ผู้ยิ่งใหญ่คนสุดท้ายที่บราซิลผลิตออกมา โดยหนึ่งปีหลังจากคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกปี 2002 เขาก็ย้ายไปโกยความสำเร็จกับ มิลาน และก้าวไปสู่จุดสูงสุดด้วยการคว้ารางวัล บัลลงดอร์ ในปี 2007

7. ริเวลิโน

Roberto Rivelino
AS Photo Archive / Alessandro Sabattini/GettyImages

เช่นเดียวกับ เปเล่ ริเวลิโน ไม่เคยเล่นในยุโรป ซึ่งเป็นเหตุผลว่า ทำไมเขาถึงไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากนัก อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ไม่ได้เปลี่ยนความจริงที่ว่า อดีตจอมทัพชาวบราซิลรายนี้เป็นหนึ่งในตำนานฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในแดนแซมบ้า หลังยิงไป 26 ประตู จากการลงเล่น 93 นัดให้กับทีมชาติ และพาทีมคว้าแชมป์โลกในปี 1970

6. ริวัลโด้

Rivaldo
Rivaldo / Clive Brunskill/GettyImages

ริวัลโด้ มีช่วงเวลาที่ดีกับ บาร์เซโลน่า ในปี 1997 - 2002 และยังเคยพาบราซิลคว้าแชมป์ โคปา อเมริกา ปี 1999 และแชมป์ ฟุตบอลโลกปี 2002 รวมถึงยังคว้ารางวัล บัลลงดอร์ มาแล้ว 1 ครั้ง

5. โรนัลดินโญ่

Ronaldinho
AC Milan v Braga - UEFA Cup Group E / Etsuo Hara/GettyImages

โรนัลดินโญ่ เป็นหนึ่งในนักเตะที่มีพรสวรรค์มากท่สุดในโลก และแฟนฟุตบอลทุกคนต่างก็หลงรักเขาอยู่เสมอ แลจุดพีคที่สุดของเจ้าตัวเกิดขึ้นในปี 2002 ที่พาบราซิล คว้าแชมป์โลก และในปี 2005/06 พา บาร์เซโลนา คว้าทริปเปิลแชมป์ได้อย่างยิ่งใหญ่

4. มิเชล พลาตินี

FOOTBALL-BIO-PLATINI-COUPE DE FRANCE
FOOTBALL-BIO-PLATINI-COUPE DE FRANCE / GEORGES BENDRIHEM/GettyImages

อดีตประธานยูฟ่า และเจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ 3 สมัยคือ หนึ่งในนักฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลในช่วงทศวรรษ 1980 โดยผลงานความสำเร็จกับทีมชาติฝรั่งเศส และ ยูเวนตุส ก็สมควรแล้วที่ พลาตินี จะได้รับฉายาว่า “นโปเลียนลูกหนัง”

3. ซีเนอดีน ซีดาน

TOPSHOT-FBL-FRA-WC98-EXHIBITION
TOPSHOT-FBL-FRA-WC98-EXHIBITION / PIERRE VERDY/GettyImages

ซีดาน ประสบความสำเร็จอย่างสูงสุดสมัยที่เล่นให้กับ ยูเวนตุส และเรอัล มาดริด รวมทั้งทีมชาติฝรั่งเศส และไม่มีแฟนบอลคนใดที่ไม่เพลิดเพลินกับสไตล์การเล่นของอดีตเพลย์เมคเกอร์เฟรนช์แมนคนนี้

2. โยฮัน ครัฟฟ์

Johan Cruyff
Johan Cruyff / R. Powell/GettyImages

ครัฟฟ์ ได้รับการยกย่องว่า เป็นนักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลของฮอลแลนด์ โดยความสำเร็จกับ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม และ บาร์เซโลนา ก็บ่องบอกทุกอย่างได้เป็นอย่างดีสำหรับสุดยอดตำนานชาวดัตช์คนนี้

1. ดิเอโก้ มาราโดน่า

Diego Maradona of Argentina
Diego Maradona of Argentina / Steve Powell/GettyImages

สุดยอดนักเตะที่ดีที่สุดตลอดกาลของวงการฟุตบอล และอาร์เจนติน่า มาราโดน่า เปรียบเสมือนเทพเจ้าของคนในบ้านเกิด รวมถึงสโมสรอย่าง นาโปลี และยังเป็นไอดอลของนักฟุตบอลเลือด “ฟ้าขาว” หลายๆคน ซึ่งไม่น่าแปลกใจเลยกับสิ่งที่เจ้าตัวทำเพื่อประเทศ


อ่านบทความเกี่ยวกับ ซีรี่ย์ Best of all time เพิ่มเติมได้ที่นี่

feed