จัดอันดับ 10 ดาวรุ่ง พรีเมียร์ลีก ที่มีโอกาสเฉิดฉายในซีซัน 2024/25 - RANKING

พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2024/25 กำลังจะเริ่มต้นการฟาดแข้งขึ้นในคืนวันนี้ แน่นอนว่าหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจคือเหล่าบรรดาดาวรุ่งจากทีมน้อยใหญ่ที่จะได้รับโอกาสลงไปอวดฝีเท้าให้โลกได้จดจำตลอดทั้งซีซัน ซึ่งหลายคนเราก็ได้เห็นฟอร์มการเล่นชิมลางกันไปแล้วในช่วงปรีซีซันที่ผ่านมา

วันนี้ 90MIN อยากพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับ 10 ผู้เล่นดาวรุ่งที่มีโอกาสแจ้งเกิดใน พรีเมียร์ลีก ซีซัน 2024/25 ว่าจะมีใครกันบ้าง และแต่ละคนอนาคตไกลขนาดไหน

10. นีโก้ โอไรลี่ย์ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)

เป็นโชคดีของนักเตะดาวรุ่งวัย 19 ปีและ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ผู้เล่นตัวจริงของทีมชุดใหญ่ติดภารกิจฟุตบอลทีมชาติจนทำให้ นีโก้ โอไรลี่ย์ ได้ลงไปอวดฝีเท้าเมื่อช่วงปรีซีซันที่ผ่านมา และทำให้แฟนบอลได้เห็นว่าไอ้หนูคนนี้มีของดีขนาดไหน

โอไรลี่ย์ เป็นผู้เล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรุกผู้เป็นกำลังหลักสำคัญให้ทีมอคาเดมี่ของ แมนฯ ซิตี้ รวมถึงเคยสวมปลอกแขนกัปตันทีมพาสโมสรคว้าแชมป์ลีกชุดเยาวชนมาแล้ว

ในช่วงปรีซีซันที่ผ่านมา โอไรลี่ย์ ได้รับโอกาสจาก เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ให้ลงคุมพื้นที่แดนกลางของทีม ซึ่งเจ้าหนูคนนี้ก็ทำได้ดีเกินคาด โดยเฉพาะในเกมเจอ บาร์เซโลน่า ที่ โอไรลี่ สามารถทำประตูได้ด้วย และยังมีผลงานในเกม คอมมูนิตี้ ชิลด์ กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่น่าประทับ จนล่าสุด เป๊ป ยอมรับว่า โอไรลี่ย์ จะได้รับโอกาสในการแข่งขันซีซันจริงแน่นอน

9. ยานคูบา มินเตห์ (ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน)

ยานคูบา มินเตห์ เป็นหนึ่งในตัวรุกริมเส้นที่ ไบรท์ตัน เสริมทัพเข้ามาในซีซันนี้ โดยทีมนกนางนวล ทุ่มเงินกว่า 30 ล้านปอนด์ ดึงตัวดาวเตะชาว แกมเบีย ผู้นี้มาร่วมทีมหลังไม่ประสบความสำเร็จกับคู่แข่งร่วมลีกอย่าง นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด

หลังซื้อ มินเตห์ มาจาก โอเด็นเซ่ บีเค เมื่อปี 2023 ทีม สาลิกาดง ไม่เคยให้โอกาสเขาได้ลงสนามในเกมทางการเลยสักครั้ง ก่อนจะส่งเขาออกไปยืมตัวที่ เฟเยนูร์ด เมื่อซีซันที่ผ่านมา ซึ่งเป็นที่ที่ มินเตห์ ระเบิดฟอร์มโหดยิงไป 11 ประตูกับอีก 6 แอสซิสต์ในทุกรายการ

จุดแข็งของดาวเตะผู้นี้ไม่ได้มีแต่ความสามารถในการยิงประตูเท่านั้น แต่ มินเตห์ ยังชำนาญเรื่องการพาบอลรุกคืบไปกับตัวจนมีสถิติเป็นผู้เล่นที่พาบอลขึ้นหน้ามากที่สุดใน เอเรดิวิซี่ ซีซันที่แล้วมากถึง 91 ครั้ง น่าสนใจว่าหากเขาเล่นคนละฟากกับ คาโอรุ มิโตมะ เกมรุกริมเส้นของ ไบร์ทตัน จะน่าเกรงขามขนาดไหน

8. โอมาริ ฮัทชินสัน (อิปสวิช ทาวน์)

ดาวเตะเยาวชนผู้มีชื่อติดอยู่บนโลกออนไลน์มาพักสักใหญ่ ๆ หลายปีแล้ว 'โอมาริ ฮัทชินสัน' ซึ่งหลังไม่ได้อยู่ในโปรเจกต์ของ เชลซี ทำให้เขาต้องเก็บกระเป๋าย้ายออกมาอยู่กับ อิปสวิช ทาวน์ ซึ่งเป็นที่ที่เขาโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในการออกมายืมตัวเมื่อซีซันที่แล้ว

ฮัทชินสัน ถือว่าใช้เวลาอยู่ในระบบเยาวชนของหลายสโมสรไม่น้อยเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น ชาร์ลตัน แอธเลติก, อาร์เซน่อล, เชลซี แต่ในซีซัน 2024/25 อาจเป็นซีซันที่เขาก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นตัวจริงของทีมในสังเวียนแข้งสูงสุดเสียที

ซีซันที่แล้ว ฮัทชินสัน ทำไปทั้งหมด 11 ประตูกับอีก 6 แอสซิสต์ เป็นกำลังสำคัญพา อิปสวิช ทาวน์ เลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นบน พรีเมียร์ลีก สำเร็จ โดยที่ความพิเศษคือเจ้าหนูวัย 20 ปีคนนี้สามารถเล่นได้หลายตำแหน่งตั้งแต่หลังยันหน้าอีกด้วย

7. เจมส์ แม็คอาตี้ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)

อาจไม่ใช่หน้าใหม่สำหรับเวที พรีเมียร์ลีก สักเท่าไร เพราะในซีซันที่แล้ว เจมส์ แม็คอาตี้ ลงเล่นต่อเนื่องให้กับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ซึ่งเจอปัญหารุมเร้าจนแทบจะชนะใครไม่เป็น ถึงอย่างนั้น แม็คอาตี้ ก็ยังทำไปได้ 5 ประตูกับอีก 4 แอสซิสต์ในทุกรายการ

"เมื่อคุณเล่นใน พรีเมียร์ลีก กับทีมที่ต้องดิ้นรนหนีตกชั้น คุณจะได้อะไรบางอย่างที่พิเศษกลับมา ผมตั้งตารอคอยที่จะเห็น แม็คก้า (แม็คอาตี้) ลงเล่น เขาเป็นคนที่ผมจับตามองมาก และผมอยากเห็นว่าเขาจะเล่นเข้ากับทีมชุดนี้ได้หรือไม่"

คำพูดดังกล่าวเป็นของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ซึ่งช่วยบอกสถานะของ แม็คอาตี้ ได้เป็นอย่างดีว่าถ้าหากเขาสามารถโชว์ฟอร์มได้น่าประทับใจในครั้งที่ได้รับโอกาส อนาคตกับทีม เรือใบสีฟ้า จะไปได้ไกลแน่นอน

6. เทรย์ นีโอนี่ (ลิเวอร์พูล)

มิดฟิลด์ดาวรุ่งวัย 17 ปีผู้ซึ่งเคยมีโอกาสได้ลงเดบิวต์กับทีมชุดใหญ่ของ ลิเวอร์พูล ไปแล้วเมื่อซีซันที่ผ่านมา โดยภายใต้การทำทีมของกุนซือใหม่อย่าง อาร์เน่อ สล็อต นีโอนี่ อาจมีโอกาสได้ลุ้นถึงการลงเป็นตัวจริงเมื่อนายใหญ่ชาว ดัตช์ ดูจะชอบนักเตะคนนี้เป็นพิเศษ

นีโอนี่ ลงเล่นในเกมปรีซีซันกับ ลิเวอร์พูล ไปถึง 4 เกม ซึ่งเจ้าหนูคนนี้ก็คุมแดนกลางได้อยู่หมัดด้วยอายุเพียง 17 ปีเท่านั้น รวมถึงยังระเบิดฟอร์มเข้าตากรรมการจากการทำสกกอร์ได้ในเกมเจอ เซบีย่า อีกด้วย

ในสถานการณ์ที่ ลิเวอร์พูล ยังไม่เสริมทัพใครเข้ามา ประกอบกับความหนาแน่นน้อยในตำแหน่งกองกลาง นิโอนี่ ที่มีทั้งความนิ่งเกินอายุและความสามารถในการถ่ายเทบอลได้ดีก็มีแววสูงว่าจะได้สัมผัสผืนหญ้า พรีเมียร์ลีก อยู่ไม่น้อย

5. โทบี้ คอลลีเยอร์ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)

แม้ฟอร์มการเล่นในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจะไม่น่าโสภาสักเท่าไร แต่หนึ่งสิ่งที่การันตีได้เลยว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เอริก เทน ฮาก ทำได้ดีคือการผลักดันดาวรุ่งฝีเท้าเยี่ยมขึ้นมาสู่ พรีเมียร์ลีก ไม่ว่าจะเป็น อเลฮานโดร การ์นาโช่ หรือ ค็อบบี้ ไมนู ที่ตอนนี้ยึดพื้นที่ตัวจริงของทีมได้อย่างเป็นทางการ และล่าสุดคือเจ้าหนู 'โทบี้ คอลลีเยอร์' ที่ฝีเท้าน่าจับตามองมาก ๆ

คอลลีเยอร์ เป็นผู้เล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรับซึ่งเป็นตำแหน่งที่ แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังมีปัญหาอยู่พอดิบพอดี และทางกุนซืออย่าง เอริก เทน ฮาก ก็เคยเอ่ยปากชมเจ้าหนูคนนี้ออกสื่อมาแล้ว ทำให้อนาคตของ คอลลีเยอร์ น่าจับตามองเข้าไปใหญ่

แม้ คอลลีเยอร์ จะยังมีสไตล์ที่ดิบเกินไปสำหรับลีกสูงสุด อังกฤษ แต่ถ้าหากได้รับการขัดเกลาอย่างถูกวิธีก็มีแววว่าเขาจะเดินตามรอยรุ่นพี่ขึ้นมาบนทีมชุดใหญ่ได้แบบถาวร

4. อดัม วอร์ตัน (คริสตัล พาเลซ)

หลายคนคงคุ้นชื่อของ อดัม วอร์ตัน กันอยู่แล้ว เพราะในซีซันที่ผ่านมาเขาฝากผลงานน่าประทับใจไว้กับ คริสตัล พาเลซ ในช่วงครึ่งซีซันหลัง จนมีชื่อติดทีมชาติ อังกฤษ ไปลุย ยูโร 2024 เลยทีเดียว

แม้จะไม่ได้ลงเล่นสักเกมเดียวที่ เยอรมัน แต่ก็ถือว่า วอร์ตัน เข้าใกล้ความสำเร็จไปอีกขั้น และแน่นอนว่าเขาจะกลับมาเล่นให้ทีม ปราสาทเรือนแก้ว ด้วยประสบการณ์ที่มากขึ้น รวมถึงการจากไปของดาวเตะอย่าง ไมเคิ่ล โอลิเซ่ ย่อมทำให้ วอร์ตัน ต้องทำงานหนักขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้ หมายความว่าแฟนบอลจะได้ดูฟอร์มของเขามากขึ้น

ฤดูกาล 2024/25 น่าจะเป็นโอกาสอันดีที่มิดฟิลด์ตัวรับวัย 20 ปีคนนี้จะได้ลงเล่นอย่างต่อเนื่องในลีกสูงสุด อังกฤษ และยังรวมไปถึงโอกาสการติดทีมชาติ อังกฤษ ชุดใหญ่อีกครั้งหลัง แกเร็ธ เซาธ์เกต ประกาศลงจากตำแหน่งไปแล้ว

3. ไมกี้ มัวร์ (ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์)

ไมกี้ มัวร์ อยู่กับทีมอคาเดมี่ของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ มาตั้งแต่อายุ 9 ขวบ และพัฒนาอย่างก้าวกระโดดขึ้นมาตามลำดับในตำแหน่งตัวรุก ซึ่งตำแหน่งที่เขาดูจะถนัดมากที่สุดคือริมเส้นทางด้านซ้าย โดยที่เจ้าตัวลงเดบิวต์ใน พรีเมียร์ลีก ไปแล้วในเกมเจอกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อซีซันก่อน

ในซีซันที่ผ่านมา มัวร์ ลงเล่นส่วนใหญ่อยู่กับทีมชุด ยู-18 ของ สเปอร์ส ซึ่งเขาทำไปทั้งหมด 16 ประตูกับอีก 9 แอสซิสต์ในทุกรายการของชุดเยาวชน และยังมีโอกาสติดทีมชาติ อังกฤษ ชุด ยู-17 ไปแล้วด้วย

ว่ากันตามตรง มัวร์ อาจยังไม่ได้รับโอกาสออกสตาร์ทตัวจริงในทีมชุดนี้ของ อันจ์ โปสเตโคกลู แต่ด้วยพรสวรรค์ประกอบกับฟอร์มการเล่นในช่วงปรีซีซันที่ผ่านมา มัวร์ ได้รับการขนานนามจากแฟนบอล ไก่เดือยทอง ว่าเป็นผลผลิตที่ดีที่สุดจากอคาเดมี่นับตั้งแต่ แฮร์รี่ เคน เลยทีเดียว

2. อีธาน เอ็นวาเนรี่ (อาร์เซน่อล)

ในฤดูกาล 2022/23 อีธาน เอ็นวาเนรี่ ได้รับโอกาสลงเดบิวต์บนเวที พรีเมียร์ลีก ด้วยวัยเพียง 15 ปีกับอีก 181 วัน ซึ่งถือเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก ที่ได้ลงสนามจวบจนถึงทุกวันนี้ นับตั้งแต่นั้นมาชื่อของ เอ็นวาเนรี่ ก็ดังก้องอยู่ในหัวแฟนบอลสายลึกและบรรดาแมวมองมาโดยตลอด

แม้ดาวเตะวัย 17 ปีรายนี้จะไม่ได้ลงสนามกับทีมชุดใหญ่อีกนานหลังจากนั้น แต่เขาก็ยังถือได้ว่าเป็นกำลังสำคัญของทีม ปืนใหญ่ ชุดเยาวชนเมื่อซีซันที่แล้ว โดยเจ้าตัวทำไปได้ถึง 18 ประตูกับอีก 4 แอสซิสต์ในทุกรายการ และยังได้รับโอกาสลงเล่นเจอ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ใน พรีเมียร์ลีก ซีซันที่แล้วด้วย

จุดเด่นของ เอ็นวาเนรี่ คือการมีเทคนิคอันแพรวพราวเกินคนรุ่นเดียวกัน รวมถึงยังสามารถเข้าใจแผนการเล่นและตัดสินใจได้ดี ซึ่ง มิเกล อาร์เตต้า ก็ได้เปรยออกมาแล้วว่าจะไม่ปิดกั้นโอกาสการเล่นของดาวรุ่งคนไหนแน่นอนหากนักเตะโชว์ฟอร์มได้น่าประทับใจ

1. ออสการ์ บ็อบบ์ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)

ไม่บ่อยครั้งที่เราจะได้เห็นดาวรุ่งจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทะลุขึ้นมาอยู่บนพาดหัวข่าวของ อังกฤษ แต่นั่นคือสิ่งที่ ออสการ์ บ็อบบ์ ทำได้เมื่อซีซันที่ผ่านมา โดยที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ก็ดูจะชื่นชอบเจ้าหนูคนนี้อยู่ไม่น้อยด้วย

บ็อบบ์ ในวัย 20 ปี ไม่เพียงแต่ได้รับความสนใจจากแฟนบอล แมนฯ ซิตี้ แต่ชื่อของเขายังเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่แฟนบอลทีมชาติ อังกฤษ อีกด้วย เพราะนี่คือดาวรุ่งที่พุ่งขึ้นมาแรงแบบเดียวกับที่ ฟิล โฟเด้น เคยทำได้ แถมฝีเท้าอันโดดเด่นก็เป็นที่น่ากังวลใจของเหล่ากองหลังทีมคู่แข่งด้วย

ซีซันที่ผ่านมา บ็อบบ์ ได้รับโอกาสลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่มากถึง 26 นัด และแทบจะเป็นการลงเล่นในทุกรายการที่ แมนฯ ซิตี้ ลงแข่งขันเลย ดังนั้นในซีซันนี้ เพื่อทดแทนการจากไปของ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ เชื่อว่า เป๊ป กวาร์ดิโอล่า น่าจะวางให้เขาเป็นตัวตายตัวแทนทางด้านกราบขวา แต่น่าเสียดายที่ บ็อบบ์ ดันบาดเจ็บจนอาจจะต้องพักสักระยะถึงจะกลับมาลงสนามได้