"เดอะบิ๊ก" ยืนยัน พ้นมลทิลเรื่องคดี สู่การทำทีมบ้านเกิด "เขี้ยวสมุทร"

“เดอะบิ๊ก”สัมฤทธิ์ บัณฑิตกฤษดา ผู้สนับสนุนสโมสร สมุทรปราการซิตี้ กล่าวเอาไว้ใน MAIN STAND ในรายการ BEYOND BALLTHAI คลายข้อสงสัยเรื่องคดี จนกลับมาทำสโมสรในไทยลีก 2 “ผมมาในนามผู้ช่วย ประธานสโมสรคือ พี่เอ๋ (ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม) ผมในนามเป็นคนสมุทรปราการ เพราะพ่อกับแม่ผมก็เป็นคนสมุทรปราการ ผมไม่ได้มาเพราะหิวแสง หรือว่าหาชื่อเสียง”

“ส่วนเรื่องคดีผม ผมพูดได้ทุกเรื่อง ผมโดน ปปง มายึดทรัพย์ทุกบริษัท เป็นสาเหตุให้ทีมเพื่อนตำรวจ เกิดเหตุชะงัก จน ม.ค.59 ผมโดนคดีอาญาปลอมเอกสาร ผมโดนเข้าไปในเรือนจำโดยไม่มีโอกาสต่อสู้ ผมโดนศาลชั้นต้นตัดสินให้เข้าคุก 10 ปี เพราะไม่มีเอกสารสักฉบับ 10 ปีในนั้นทางบ้านพยายามยื่นประกันตัวทั้งหมด 20 ครั้ง ก็ไม่ได้ยื่นประกัน หลังจากนั้นอยู่ในเรือนจำจนถึง ต.ค.63 ซึ่งช่วงนั้นอยู่กับผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง”

“นั่นคือ พี่ยุทธ สรยุทธ สุทัศนะจินดา ตอนนั้นผมสู้ฏีกาอยู่ แต่ไม่มีใครบอกว่าแม่ผมเป็นมะเร็ง ทางเลขาพี่ยุทบอกให้น้องสาวผมไปหาคุณหมอที่โรงพยาบาลรามา เป็นคุณหมอคนเดียวกับที่รักษาคุณแม่น้องไบร์ท จน ต.ค. ผมได้มีโอกาสคุยกับพี่ยุทธ ว่าเรื่องฏีกาเป็นอย่างไร ซึ่งพี่เขาบอกเรื่องแม่ผมป่วย ก็เลยถามจากทนายผมก็เป็นเรื่องจริง ระหว่างรอฏีกาอยู่เกือบปี เลยคิดว่าถอนฏีกาดีกว่า เพื่อให้มีสิทธิ์พักการลงโทษตามกฏหมายตาม พ.ร.บ. ราชกาลทุกอย่าง”

"ครั้งหนึ่ง ท่านสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เห็นว่านักโทษล้นเรือนจำ ท่านมีนโยบายคือลดความแออัด จึงออก พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ ว่า ผู้ต้องขังที่ไม่เกี่ยวกับยาเสพติดหรือคดีร้ายแรง ให้มีการพักโทษในคดีพิเศษ นั่นคือ 1 ใน 3 ของนักโทษ ตัวผมเองติด 10 ปี ช่วงผมกำลังจะถอนฏีกาผมอยู่มาครึ่งโทษคือ 5 ปีแล้ว ผมมีสิทธิ์ได้พักการลงโทษ ผมออกมาจากเรือนจำวันที่ 5 เม.ย.2564 แต่ยังติดกำไล EM ที่ข้อเท้า ก่อนวันที่ 28 ก.ค. ในวันเฉลิมของ ร.10 ผมได้รับการพระราชทานอภัยโทษอีก 1 ครั้ง ผมก็หมดโทษพอดี ผมออกมาครั้งนี้ผมจบหมดแล้ว ผมไม่เหลืออะไรอีกแล้ว"