ทีมชาติสเปน - ยูโร 2024 : โปรแกรมการแข่งขัน รายนามนักเตะ วิเคราะห์แนวทางการเล่น และแข้งที่น่าจับตามอง
- ทีมชาติสเปนยังคงเป็นขาประจำในทัวร์นาเมนต์นี้ แม้ในช่วงหลังจะทำผลงานไม่เข้าเป้าในทัวร์นาเมนต์ใหญ่
- ยูโร 2024 จะเป็นทัวร์นาเมนต์แรกในระดับชาติของ หลุยส์ เด ลส ฟูเอนเต้ กุนซือ ทัพกระทิงดุ
- สเปน เคยประสบความสำเร็จอย่างสูงในช่วงยุคทองทั้งแต่ปี 2008 ถึง 2012
หากย้อนกลับไปในช่วงปี 2008 ทีมชาติสเปน ดูจะเป็นชาติที่ถูกขนานนามว่าเป็น "ทีมโกง" ทีมหนึ่งเลยก็ว่าได้ ซึ่งนั่นไม่ได้หมายความถึงการที่พวกเขาเล่นนอกเกมหรือเล่นสกปรกแต่อย่างใด แต่มันสื่อถึงความเก่งกาจที่ไร้เทียมทานจนไม่มีทีมใดต้านทานได้กับการคว้าแชมป์ยุโรป 2 สมัยติดในปี 2008 และ 2012 บวกกับแชมป์โลกอีก 1 สมัยในปี 2010
แน่นอนว่าเมื่อเวลาเปลี่ยนยุคสมัยก็ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไปตามกาลเวลาจนทำให้ปัจจุบันแม้ สเปน จะถือเป็นทีมใหญ่ แต่ก็ไม่ใช่ทีมที่เก่งกาจไร้เทียมทานเหมือนภาพลักษณ์ในยุคทองดังที่กล่าวไปอีกแล้ว โดยหลังจากนั้นก็มีช่วงเวลาขึ้น ๆ ลง ๆ ตามวิถีของฟุตบอล จนในช่วงหลังมานี้พวกเขาเริ่มกลับมาทำผลงานได้ดีอีกครั้งกับการเกือบได้เข้าชิง ยูโร 2020 และการคว้าแชมป์ ยูฟ่า เนชั่นลีก เมื่อปี 2023 ที่ผ่านมา
วันนี้เราอยากจะพาแฟนบอลไปทำความรู้จักกับพวกเขาให้มากขึ้นกับความพร้อมและความเป็นไปในศึก ยูโร 2024 ของ "ทัพกระทิงดุ"
รายชื่อขุนพล ทีมชาติสเปน ในศึก ยูโร 2024 นี้
ผู้รักษาประตู
- ดาบิด รายา (อาร์เซนอล)
- อเล็กซ์ รามิโร (เรอัล โซเซียดาด)
- อูไน ซิมอน (แอธฯ บิลเบา)
กองหลัง
- ดานี คาบาฆาล (เรอัล มาดริด)
- มาร์ค คูคูเรญา (เชลซี)
- นาโช (เรอัล มาดริด)
- อเล็กซ์ กริมัลโด้ (ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน)
- ไอเมริค ลาปอร์ต (อัล นาสเซอร์)
- โรบิน เลอ นอร์มอง (เรอัล โซเซียดาด)
- เชซุส นาบาส (เซบีญา)
- ดานี วิเวียน (แอธฯ บิลเบา)
กองกลาง
- อเล็กซ์ บาเอนา (บียาร์เรอัล)
- เฟร์มิน โลเปซ (บาร์เซโลนา)
- มิเกล เมริโน (เรอัล โซเซียดาด)
- เปดรี้ (บาร์เซโลนา)
- โรดรี้ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)
- ฟาเบียน รุยซ์ (ปารีส แซงต์ แชร์กแมง)
- มาร์ติน ซูบิเมนดี้ (เรอัล โซเซียดาด)
กองหน้า
- โฆเซลู (เรอัล มาดริด)
- อัลบาโร โมราต้า (แอตฯ มาดริด)
- อโยเซ เปเรซ (เรอัล เบติส)
- ดานี โอลโม (ไลป์ซิก)
- มิเกล โอยาร์ซาบาล (เรอัล โซเซียดาด)
- เฟร์ราน ตอร์เรส (บาร์เซโลนา)
- นิโก้ วิลเลียมส์ (แอธฯ บิลเบา)
- ลามีน ยามาล (บาร์เซโลนา)
โปรแกรมการแข่งขัน
ทีมชาติสเปนถูกจัดอยู่ใน "กรุ๊ปออฟเดท" ที่เรียกว่าน่าจะสนุกสูสีมากที่สุดจากบรรดาทุกกลุ่มในทัวร์นาเมนต์แล้วก็ว่าได้ เพราะมีเพื่อน ๆ อย่าง อิตาลี กับดีกรีแชมป์เก่า ยูโร 2020 โครเอเชีย ที่ทำผลงานได้ดีในช่วงหลายปีหลังรวมถึงยังเคยเป็นคู่ชิงชนะเลิศในเกม ยูฟ่า เนชั่นลีก ของพวกเขาเมื่อปี 2013 อีกด้วย ส่วนอีกหนึ่งทีมเป็น อัลเบเนีย ที่แม้จะชื่อชั้นเป็นรองทุกทีมที่กล่าวมา แต่การเข้ามาถึงรอบนี้ได้ย่อมไม่หมูอย่างแน่นอน
วัน | เวลา | คู่แข่ง | ช่องทางรับชม |
---|---|---|---|
คืนวันเสาร์ที่ 15/06/24 | 23.00 น. | โครเอเชีย | True Premier Football 3 / PPTV |
คือวันพฤหัสบดีที่ 20/06/24 | 02.00 น. | อิตาลี | True Premier Football 3 / ไทยรัฐทีวี |
คืนวันจันทร์ที่ 24/06/24 | 02.00 น. | อัลเบเนีย | True Premier Football 3 / MCOT |
สถิติที่ ทีมชาติสเปน เคยพบคู่แแข่งร่วมกลุ่ม
- สเปน ชนะ 6 / เสมอ 1 / โคเอเชีย ชนะ 3
- สเปน ชนะ 15 / เสมอ 13 / อิตาลี ชนะ 12
- สเปน ชนะ 8 / เสมอ 0 / อัลเบเนีย ชนะ 0
ความเป็นไปได้ในรอบน็อคเอาท์
ต้องบอกเลยว่าการที่ สเปน จะผ่านรอบแบ่งกลุ่มใน ยูโร 2024 หนนี้ให้ได้นั้นดูจะยากลำบากกว่าทีคิด แต่ในกรณีที่พวกเขาทำสำเร็จ หากจบในฐานะแชมป์กลุ่มจะโคจรไปพบกับอันดับ 3 ที่ดีที่สุดจากกลุ่ม เอ ดี อี หรือ เอฟ ซึ่งยังคงต้องรอดูหน้างานอีกครั้งว่าจะเป็นทีมใด แต่หากจบอันดับสองของกลุ่ม พวกเขาจะไขว้ไปเจอกับอันดับสองจากกลุ่ม เอ ที่มีทั้ง เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ สกอตแลนด์ และ ฮังการี สังกัดอยู่
สำหรับกลุ่มนี้อาจจำเป็นต้องดูถึงโอกาสในการเข้ารอบเป็นทีมอันดับ 3 ที่ดีที่สุดด้วย โดยปีนี้จะนำอันดับ 3 ที่ผลงานดีที่สุด 4 ทีมเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายไป ซึ่งหากพวกเขาจะใช้โควต้านี้จะต้องโคจรไปพบกับอันดับ 1 ของกลุ่ม อี ที่มี สโลวาเกีย ยูเครน โรมาเนีย และ เบลเยียม หรือ อันดับ 1 ของกลุ่ม เอฟ ที่มี เช็ก ตุรกี จอร์เจีย และความเป็นไปได้มากที่สุดอย่าง โปรตุเกส ซึ่งคงเป็นเกมที่น่าติดตามชมมิใช่น้อยเลยทีเดียว
ว่าด้วยเรื่อง "แทคติค"
คาดว่าแผนการของ เด ลา ฟูเอเต้ ใน ยูโร หนนี้คือ 4-3-3 เป็นหลักที่ยังคงเน้นการครองบอลซึ่งอยู่ DNA ของพวกเขามาตั้งแต่สมัยยุคทองเมื่อสิบกว่าปีก่อนแล้ว บวกกับการใช้ความสามารถเฉพาะตัวของนักเตะการเลื้อยทำเกมพลางเคาะบอลจ่ายบอลตามช่อง ซึ่งก็ต้องมาดูกันว่าปีนี้พวกเขาจะทำสิ่งที่ว่านี้ได้เนียนตามากแค่ไหน
ซึ่งสิ่งที่พวกเขาต้องเจอแน่นอนจากการบิ๊วอัพบอลจากหน้าปากประตูคือการโดนเพลสกดดันสูงจากคู่แข่ง ซึ่งจุดนี้จะเป็นการชี้วัดที่แท้จริงว่าพวกเขาจะสามารถแก้เกม แก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าได้ดีแค่ไหน แต่แฟน ๆ คงจะหายห่วงได้ระดับหนึ่งเมื่อเห็นไลน์อัพในแดนกลางที่เรียกได้ว่าเป็นหัวใจสำคัญของระบบนี้เพราะพวกเขายังคงมีทั้ง โรดรี้ กลางรับที่ว่ากันว่าเป็นเบอร์ต้น ๆ ของโลกที่เจอเรื่องแบบนี้มาตลอดทั้งปีกับการแก้เพลสร่วมกับ แมนฯ ซิตี้ เช่นเดียวกับ เปดรี้ ยอดเพลย์เมคเกอร์เชิงสูงที่พร้อมจะเปลี่ยนบอลธรรมดาให้เป็นโอกาสงาม ๆ แก่เพื่อร่วมทีม
ส่วนตัวรุกริมเส้นแทบไม่ต้องพูดถึงเพราะชื่อชั้นแทบจะเป็นอันดับต้น ๆ ของทัวร์นาเมนต์เลยก็ว่าได้ทั้ง ลามีน ยามาล นิโก้ วิลเลียม หรือแม้แต่ อเล็กซ์ กริมัลโด้ ที่ต่างผลงานยอดเยี่ยมกับต้นสังกัดตลอดฤดูกาลที่ผ่านมา
คีย์แมน กระทิงดุ
หากจะหาคีย์แมนสักคนที่จะเป็นหัวใจสำคัญในทีมชุดนี้คงต้องขอยกให้กับ โรดรี้ กองกลางมากประสบการณ์จากค่าย เรือใบสีฟ้า ที่ยังคงวางใจและมั่นใจว่าเขาจะช่วยคุมเกมแดนกลางตั้งแต่หน้าปากประตูตัวเองไปยันหน้าเขตโทษคู่แข่ง ด้วยสไตล์การเล่นที่ครบเครื่อง ครองบอลเหนียวแน่น เล่นบอลฉลาด แถมยังแข็งแกร่งและมีทีเด็ดจากลูกยิงแถวสอง นั่นทำให้เขาคนนี้สามารถเป็นคนคุมทั้งระบบให้กับ ทัพกระทิงดุ เลยก็ว่าได้
ส่วนอีกคนที่ละสายตาไม่ได้จริง ๆ คือ ลามีน ยามาล เด็กมหัศจรรย์วัยเพียง 16 ปีแต่สามารถก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในตัวรุกหัวแถวของวงการได้เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งก็ต้องขอบคุณ "ลามาเซีย" มาผลิตและฟูมฟักเขาขึ้นมาเป็นอย่างดี มีทั้งความเร็ว ทักษะอันยอดเยี่ยม แถมยังหัวไวในการเอาตัวรอด ชนิดที่เรียกได้ว่าเก่งเกินวัยไปมากสำหรับเด็กหนุ่มที่เพิ่งจะออกมายอมรับว่าต้องพกการบ้านจากโรงเรียนไปทำในแคมป์ทีมชาติรายนี้