[TEAM PROFILE] เจาะลึกคู่แข่งที่ แมนฯ ยูไนเต็ด จะประมาทไม่ได้ : เรอัล โซเซียดาด ม้ามึดหัวตารางแห่งแดนกระทิงดุ

จากผลการจับฉลากประกบคู่ในศึก ยูฟ่า ยูโรปาลีก รอบ 32 ทีมสุดท้ายเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ปรากฎว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผู้ซึ่งออกหักหลังจบอันดับที่ 3 ใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ต้องโคจรมาพบกับ เรอัล โซเซียดาด ทีมดังจาก ลาลีกา ที่สร้างเซอร์ไพรส์ขึ้นนำเป็นจ่าฝูงของลีกสูงสุดประเทศสเปนอยู่ ณ ปัจจุบัน

ที่มาโดยสังเขป

เรอัล โซเซียดาด เป็นสโมสรที่ตั้งอยู่ในเมือง ซาน เซบาสเตียน แคว้นบาสก์ ที่เคยมีดีกรีเป็นถึงแชมป์ลาลีกา 2 สมัยติดต่อกันในปี 81 และ 82 โดยฤดูกาลก่อนพวกเขาจบในอันดับที่ 6 ของตาราง ทำให้ได้สิทธิเข้ามาเล่นในรายการนี้แบบอัตโนมัติ อย่างไรก็ตามซีซั่นนี้กลับทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจด้วยการขยับขึ้นไปรั้งจ่าฝูงในลีกมี 26 คะแนนเทียบเท่ากับ แอตเลติโก มาดริด แต่แข่งมากกว่า 2 เกมด้วยกัน ส่วนใน ยูโรปาลีก พวกเขาผ่านรอบแบ่งกลุ่มมาในฐานะทีมอันดับที่ 2 เป็นรอง นาโปลี แชมป์กลุ่มอยู่ 2 คะแนน

ขุนพลที่น่าจับตา

น่าสนใจตรงที่ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา เรอัล โซเซียดาด ไม่ใช้เงินซื้อนักเตะใหม่เลยแม้แต่บาทเดียว มีเพียง ดาบิด ซิลบา ที่คว้าตัวมาจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แบบไร้ค่าตัวเพียงรายเดียวเท่านั้นที่ถูกดึงเข้ามาเสริมทัพให้กับทีม แต่ด้วยกึ๋นของกุนซือสมองเพชรอย่าง อิมานอล อัลเกวซิล ที่ถูกดันขึ้นมาจากโค้ชทีมชุดเยาวชนเมื่อเดือนธันวาคมปี 2018 เขากลับเลือกที่จะเค้นศักยภาพจากผู้เล่นมากความสามารถที่มีอยู่เดิมออกมาจนทำผลงานได้อย่างโดดเด่น ไม่ว่าจะเป็น..

มิเกล โอยาร์ซาบัล ตัวรุกลูกหม้อชาวสเปนวัย 23 ปีที่กำลังเนื้อหอมสุด ๆ ด้วยผลงาน 7 ประตูกับอีก 2 แอสซิสต์จาก 11 เกมใน ลาลีกา ฤดูกาลนี้ ซึ่งหากนับ 4 ปีหลังสุดเจ้าตัวทำไปมากถึง 47 ประตูกับอีก 27 แอสซิสต์เลยทีเดียว

อเล็กซานเดอร์ ไอแซค อดีตกองหน้าวันเดอร์คิดจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ที่ย้ายมาแจ้งเกิดใน ลาลีกา ได้ตั้งแต่ฤดูกาลก่อน ด้วยการซัดไปถึง 16 ประตูให้กับทีมด้วยกัน

มิเกล เมริโน กองกลางห้องเครื่องดีกรีทีมชาติสเปน ที่เรียกได้ว่าพัฒนาฝีเท้าจนกลายมาเป็นหัวใจสำคัญในแดนกลางของสโมสรได้สำเร็จนับตั้งแต่ย้ายจาก นิวคาสเซิล มาในปี 2018

โรบิน เลอ นอร์มันด์ ปราการหลังเลือดฝรั่งเศสวัย 24 ปี ที่ทีมคว้าตัวมาแบบฟรี ๆ ตั้งแต่ยังเป็นดาวรุ่งก่อนจะพัฒนาฟอร์มการเล่นจนยึดตัวหลักให้กับทีมชุดใหญ่ได้ตั้งแต่ฤดูกาลก่อน

ดาบิด ซิลบา ชื่อนี้คงไม่ต้องพูดถึงเรื่องฝีเท้ากันมาก แม้วัยจะปาเข้าไป 34 ปีแล้ว แต่คุณภาพยังแทบไม่ตกลงไปเลยด้วยบทบาทการเป็นเพลย์เมกเกอร์ ที่สามารถยึดตัวหลักในทีมได้ทันทีนับตั้งแต่ย้ายเข้ามา

และ อัดนาน ยานาไซจ์ คนที่แฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด น่าจะพอจะจำกันได้ เพราะเคยเป็นถึงอดีตดาวรุ่งผู้ที่ถูกมั่นหมายว่าจะมาสืบทอดหมายเลข 11 ของ ไรอัน กิ๊กส์ แต่สุดท้ายกลับไม่สามารถแจ้งเกิดกับทีมได้ จนย้ายมาร่วมทีม เรอัล โซเซียดาด ในปี 2017 ซึ่งผลงานก็จัดว่าทรง ๆ ทำได้ 8 ประตูกับอีก 4 แอสซิสต์ให้ทีมในปีก่อน

สไตล์การเล่น

โซเซียดาด เป็นทีมที่ยิงประตูได้มากที่สุดในบรรดาทีมใน ลาลีกา ฤดูกาลนี้ (23 ประตู) มากกว่า เรอัล มาดริด หรือ บาร์เซโลนา เสียอีก นั่นแสดงให้เห็นถึงมาตรฐานเกมรุกอันดุดันและที่สำคัญคือความมีเฉียบขาดอย่างมากในการจบสกอร์ หากใครได้มีโอกาสติดตามดูแบบสด ๆ จะเห็นได้ถึงแผน 4-2-3-1 สไตล์ที่เน้นครองบอลบุกกดดันคู่แข่ง โดยอาศัยการต่อบอลสั้นเข้าสู่พื้นที่อันตราย รวมถึงมีเกมสวนกลับที่ค่อนข้างน่ากลัวด้วยการใช้บอลยาวจากแนวลึกข้ามแผงหลังของคู่แข่ง โดยตลอด 13 นัดในลีกซีซั่นพวกเขาพึ่งจะแพ้ไปเพียงเกมเดียวเท่านั้นในเกมที่เปิดบ้านไปพ่าย บาเลนเซีย 0-1 นอกเหนือจากนั้นสามารถเก็บแต้มกลับมาได้ทั้งหมดรวมถึงเกมที่เสมอกับแชมป์เก่า เรอัล มาดริด 0-0 เมื่อต้นฤดูกาลที่ผ่านมา

วิเคราะห์ทางรอดของ ปีศาจแดง

แน่นอนสำหรับชื่อชั้นของสโมสร คงยากที่ โซเซียดาด จะเทียบชั้นความยิ่งใหญ่ในอดีตกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ แต่หากพูดถึงผลงานในปัจจุบัน แฟนปีศาจแดง บางคนอาจยอมรับว่าดูเป็นรองอยู่เล็ก ๆ อย่างไรก็ตามเกมนี้น่าจะเป็นอีกคู่ที่สนุกสูสีมากที่สุดนัดหนึ่งในรอบ 32 ทีมสุดท้าย ซึ่ง แมนฯ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของ โอเล กุนนาร์ โซลชา มีทีเด็ดอยู่ที่การเล่นเกมสวนกลับ โดยอาศัยความเร็วระดับ 100 แรงม้าของบรรดาตัวรุกที่สามารถการฉีกแนวรับคู่แข่งออกเป็นเสี่ยง ๆ ได้สบาย ๆ ซึ่งมักจะได้ผลดีกับทีมที่พยายามเล่นเกมบุกเข้าใส่พวกเขา แต่ก็มักจะตื้อตันอยู่เป็นประจำเมื่อต้องเจอกับทีมที่อุดรอตั้งรับอยู่ในแดนของตัวเอง เพราะฉนั้นต้องมาลุ้นกันว่าจ่าฝูงของ ลาลีกา จะวางแทคติคมาแบบใดเมื่อต้องเจอกับยักษ์ใหญ่จาก พรีเมียร์ลีกอังกฤษ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดเหนือสิ่งอื่นใดคงต้องคาดหวังให้ 2 ตัวชูโรงในชัวโมงนี้อย่าง มาร์คัส แรชฟอร์ด และเบอร์ 1 ของทีมอย่าง บรูโน เฟอร์นันเดส อย่าเจ็บ อย่าป่วย ในช่วงเวลานั้นก็อาจเพียงพอที่จะทำให้บรรดาเหล่าสาวก เร้ด เดวิลส์ ได้ใจชื้นและมีความหวังในการลุ้นเข้ารอบขึ้นมามากพอตัวเลยทีเดียว !

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะเป็นฝ่ายออกไปเยือนก่อนในเกมแรก คืนวันพฤหัสบดีที่ 18 กุมภาพันธ์ 2021 เวลา 00.55 น. ก่อนจะกลับมาเล่นในบ้านนัดที่สองวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2021 ตามมาลุ้นกันว่าพวกเขาจะสามารถผงาดคว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จหลังจากต้องอกหักตกรอบ 4 ทีมสุดท้ายไปเมื่อฤดูกาลก่อนหรือไม่ แฟน ปีศาจแดง ตัวจริงห้ามพลาด !

สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น!*ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด