ทีมชาติไทย 0-0 เวียดนาม : บันทึกการเข้ารอบที่ครบทุกรสชาติ แต่อาเซียนสงบแล้ว
โดย W.PINTHONG
การแข่งขัน : เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 รอบรองชนะเลิศ นัดสอง
วันแข่งขัน : วันอาทิตย์ที่ 26 ธันวาคม 2021
เวลาแข่งขัน : 19.30 น.
คู่แข่งขัน : ทีมชาติไทย 0-0 เวียดนาม (รวมผลสกอร์นัด ทีมชาติไทย ชนะ 2-0)
สนาม : Singapore National Stadium
เจ้าของแชมป์รายการนี้ 5 สมัย คือ 1996, 2000, 2002, 2014, 2016 อย่างทีมชาติไทย จัด 11 ผู้เล่นตัวจริง ด้วยระบบ 4-4-2 ในการเจอกับ เวียดนาม เกมที่สอง รอบรองชนะเลิศ หลังจากเกมแรกเอาชนะไป 2-0 วาง ฉัตรชัย บุตรพรม เป็นผู้รักษาประตู แบ็คซ้ายใช้ ธีราทร บุญมาทัน ขวาเป็น นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม
เซนเตอร์ฮาล์ฟใช้ มานูเอล ทอม เบียรห์ ไปคู่กับ กฤษดา กาแมน กองกลางตัวรับใช้ พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล กับ สารัช อยู่เย็น วาง 3 ประสานเกมรุก เอาความพลิ้วของ ใช้ความพลังระห่ำของ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ไปแทน สุภโชค สารชาติ ที่ได้รับบาดเจ็บจากเกมแรก เดินเกมร่วมกับ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่สวมปลอแขนกัปตันทีม โดยมี ธีรศิลป์ แดงดา เป็นหัวหอกร่วมกับ ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ ซึ่งมาแทนที่ ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร
เปิดฉากครึ่งแรก น.13 ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ เปิดบอลจากซ้ายไปให้ ธีรศิลป์ แดงดา วอลเลย์แบบไม่ต้องจับที่เสาไกล แต่บอลไม่เต็มเท้า น.18 เหงียน กวง ไฮ่ เข้าบอล ธีราทร บุญมาทัน จากด้านหลัง แต่ไม่โดนใบเหลือง น.30 ไทย ต้องส่ง ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ลงไปแทน ฉัตรชัย บุตรพรม ที่เจ็บเข่าขวา
น.31 ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ รับใบเหลืองแรกองเกม หลังจากไปทำฟาล์วผู้เล่นเวียดนาม น.40 ธีราทร บุญมาทัน เปิดฟรีคิกทางขวาเข้าไปในเขตโทษ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ โขบอลข้ามคาน น.44 ปฐมพล เจริญรัตนาภิมย์ ไปเตะ เหงียน กวง ไฮ่ ยังดีที่เป็นแค่ฟาล์วไม่มีใบเหลือง จังหวะต่อมา เหงียน กวง ไฮ่ เปิดฟรีคิกจากขวาเข้าไป ธีรศิลป์ แดงดา โหม่งเคลียร์ออกหลัง ก่อนหมดครึ่งแรกยังสมอ 0-0
ครึ่งหลังไทยส่ง เอเลียส ดอเลาะ กับ ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร ไปแทน ปฐมพล เจริญรัตนภิรมย์ กับ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ลงไปแทน ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร น.46 บุย เตียน ตุง รับใบเหลือไปสอย ธีรศิลป์ แดงดา จากด้านหลัง น.49 เหงียน กวง ไฮ่ ซัดฟรีคิกระยะไกลส่งบอลหลุดเสาแรกนิดเดียว น.50 นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม ตบบอลกลับไปให้ ธีรศิลป์ แดงดา ยังยิงบดไปอีก
น.58 ธีราทร บุญมาทัน ไปเสียฟาล์วใส่ เหงียน กวง ไฮ่ ทำให้รับใบเหลือง เท่ากับว่าเป็นใบเหลืองที่สอง หากเข้าชิงกับ อินโดนีเซีย วันที่ 29 ธ.ค.นี้ เกมแรก เขาไม่สามารถลงสนามได้ น.68 ไทย ถอด สารัช อยู่เย็น ที่โดนอัดหนัก แล้วส่ง ปกเกล้า อนันต์ ลงไปแทน น.82 "ช้างศึก" ส่ง ศุภชัย ใจเด็ด ไปแทนที่ ธีรศิลป์ แดงดา
จากนั้นทั้งสองทีมยังเปิดเกมแลกกันอย่างสนุก ก่อนที่จบเกมจะเสมอไป 0-0 แต่รวมผลสองนัด "ช้างศึก" เอาชนะ เวียดนาม ไปด้วยสกอร์ 2-0 ทำให้ผ่านเข้าไปลุ้นแชมป์ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 กับ อินโดนีเซีย นัดแรกจะเตะกันในวันที่ 29 ธ.ค.นี้ เวลา 19.30 น. ที่สนาม Singapore National Stadium
คะแนนนักเตะ ทีมชาติไทย
11 ผู้เล่นตัวจริง : ฉัตรชัย บุตรพรม (7), กฤษดา กาแมน (7), มานูเอล ทอม เบียรห์ (7), ธีราทร บุญมาทัน (9), นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม (8), สารัช อยู่เย็น (7), พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล (7), ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ (8), ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ (7), ชนาธิป สรงกระสินธ์ (7), ธีรศิลป์ แดงดา (7)
ตัวสำรอง : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (7), เอเลียส ดอเลาะ ( 7), ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร (7), ปกเกล้า อนันต์ (6), ศุภชัย ใจเด็ด (6)
คีย์แมน - ธีราทร บุญมาทัน
แม้จะโดนใบเหลืองอีก 1 ใบ และโดนแบนในเกมแรกที่จะเจอกับ อินโดนีเซีย แต่ว่าตลอด 90 นาทีที่อยู่ในสนาม เขาก็เล่นแบบเต็มที่ ไม่ให้โดนใบแดง แถมเขาก็ยังทำผลงานอย่างยอดเยี่ยม ซึ่ง 4 เกมลงเล่น 360 นาที วิ่งเยอะสุดในทีม เป็นผู้นำและนักรบในสนาม
คลาสบอลระดับเอเชีย เทคนิคเกินกว่าทวีป เล่นงานแนวรุก เวียดนาม แบงหัวปั่น ฉีกเกมรับกระจุย เติมเกมแบบสุดๆ กล้าหาญ เด็ดเดี่ยว บู๊แหลก นี่แหละที่ทุกคนรักเขา “เจ้าชายสายฟ้า” นามว่า “ธีราทร บุญมาทัน”
ประเด็นหลังเกม
ครึ่งแรกยอมรัแบบตามตรงว่า เวียดนาม มาดีกว่าเยอะ เกรี้ยวกราด ดุดัน และกดดันทีมชาติไทย จนหวิดเสียประตูหลายลูก เอาจริงๆ "ช้างศึก" มีล้นแค่ช่วงต่อเวลาพิเศษ น.45+6 จังหวะ ธีราทร บุญมาทัน ยิงด้วยซ้ายยัดไปที่เสาแรก แต่นายด่านเหงียนปัดบอลออกไป และก็เป็นช็อตเดียวที่ได้เสียวแบบสุดๆ
ก่อนจะปรับมาเล่นกองหลัง 3 คนในครึ่งหลัง ด้วยการสกอร์ เอเลียส ดอเลาะ ลงมา ทำให้แนวรับแข็งแกร่งขึ้น ประกอบกับ คนที่ลงมาอย่าง ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน แทนที่ ฉัตรชัย บุตรพรม ที่มีอาการบาดเจ็บ ทว่าเขาเองก็มีความนิ่งและเยือกเย็นอย่างมาก ซึ่งการจบที่ผลเสมอ ถือว่าเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยม