จัดอันดับปราการหลังตัวกลางที่สุดในโลก ณ เวลานี้ - RANKED

การจะเลือกนักเตะที่ดีที่สุดในโลกแต่ละตำแหน่งนั้น ต้องบอกเลยว่าเป็นเรื่องยากมากที่จะจัดอันดับให้ตรงใจใครหลาย ๆ คน แต่แน่นอนว่านี่แหละคือความสนุกของฟุตบอลกับการมานั่งจับเข่าคุยว่าใครเหนือกว่าใคร

กองหลังตัวกลางเปรียบเสมือนหัวใจสำคัญของวงการฟุตบอลยุคใหม่ และไม่เพียงเพียงแต่เล่นเกมรับได้อย่างแข็งแกร่งเท่านั้น แต่พวกเขายังต้องเปิดบอลจากแดนหลังได้อย่างแม่นยำเพื่อให้เพื่อนร่วมทีมสร้างสรรค์เกมได้ทันที วันนี้เราตจะพาไปพบกับ...

จัดอันดับ 25 ปราการหลังตัวกลางที่ดีที่สุดในโลก ณ เวลานี้

25. เลนี โยโร

กองหลังดาวรุ่งพุ่งแรงมากที่สุดคนหนึ่ง ณ เวลานี้ แจ้งเกิดกับ ลีลล์ ก่อนจะเป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ไปชิงตัวมา แต่น่าเสียดายที่ยังไม่ทันได้วาดลวดลายกลับโดนอาการบาดเจ็บเล่นงานและยังคงต้องรอเวลาการพิสูจน์ตัวเองต่อไป

24. ดาวิด อลาบา

แข้งทีมชาติออสเตรียกอบโกยความสำเร็จอย่างนับไม่ถ้วนกับ บาเยิร์น และถึงแม้จะมีตำแหน่งธรรมชาติเป็นแบ็คซ้าย แต่ อลาบา สามารถขยับมาเล่นเป็นกองหลังตัวกลาง และมิดฟิลด์ตัวรับได้อีกด้วย แน่นอนว่า การย้ายมายัง มาดริด นั้น เขาทำให้แนวรับ “ราชันชุดขาว” อุ่นใจได้เสมอ

23. ดาโยต์ อูปาเมกาโน

ทีมชาติฝรั่งเศสมีกองหลังตัวกลางที่ดีมากมาย และ อูปาเมกาโน่ ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกอันดับต้นๆ โดย เซ็นเตอร์แบ็คจาก บาเยิร์น มิวนิค ทีทั้งความแข็งแกร่ง ความเร็ว และเปิดบอลจากแนวรับได้อย่างยอดเยี่ยม

22. มัทไธจ์ส เดอ ลิกต์

ย้อนกลับไปในซีซัน 2018/19 เดอ ลิกต์ ถือเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยให้ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม เข้าไปถึงรอบ 4 ทีมสุดท้าย และได้รับการยกย่องว่า เป็นหนึ่งในกองหลังที่มีพรสวรรค์มากที่สุดในยุโรป น่าเสียดายที่เส้นทางของเขากับ ยูเวนตุส และ บาเยิร์น ไม่ราบรื่น กระทั่งปัจจุบันเขาได้รับโอกาสอีกครั้งกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

21. ฌูลส์ กุนเด้

กุนเด เป็นกองหลังสารพัดประโยชนย์ที่สามารถเล่นได้ทั้งแบ็คขวา และเซ็นเตอร์แบ็ค ซึ่งความเก่งกาจของเจ้าตัวนั้น ทำให้กลายเป็นผู้เล่นที่ บาร์เซโลน่า หวงแหนมากที่สุด และดูเหมือนว่า จะเป็นเรื่องยากที่ “เจ้าบุญทุ่ม” จะยอมปล่อยเขาออกไปจาก คัมป์ นู

20. เอ็ดมันด์ แทปโซบา

ผลงานที่โดดเด่นของ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ภายใต้การนำของกุนซือ ชาบี อลอนโซ่ ส่วนหนึ่งมาจากฟอร์มที่น่าประทับใจของ ทัปโซบา โดยดาวเตะทีมชาติบูร์กินาฟา พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกๆด้าน และกลายเป็นหัวใจสำคัญของ “ห้างขายยา” เรียบร้อยแล้ว

19. มูริโญ

กองหลังชาว บราซิล ที่ปัจจุบันยกระดับตัวเองและต้นสังกัดอย่าง น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ขึ้นมาเป็นทีมลุ้นพื้นที่หัวตาราง ซึ่งเขาก็เป็นกำลังสำคัญของทีมในการคุมเกมรับ จนเป็นที่จับตาของยักษ์ใหญ่หลายทีมในยุโรป

18. มานูเอล อาคันยี

อาคันยี ไม่ได้รับการพูดถึงมากนักสมัยที่ยังค้าแข้งกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ แต่หลังจากย้ายมาร่วมงานกับกุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่ แมนฯ ซิตี้ เขาก็กลายเป็นหนึ่งในกองหลังมากฝีมือไปเรียบร้อยแล้ว และยังกลายเป็นผู้เล่นสารพัดประโยชน์อีกด้วย

17. ลิซานโดร มาร์ติเนซ

การออกสตาร์ตของ มาร์ติเนซ กับ แมนฯ ยูไนเต็ด เต็มไปด้วยความยำลำบาก หลังจากแฟน ๆ ต่างมองว่าเขาอาจจะไม่ประสบความสำเร็จกับการเล่นใน พรีเมียร์ลีก อย่างไรก็ตาม ปราการหลังอาร์เจนไตน์ เอาชนะเสียงวิจารณ์ได้สำเร็จจากการเล่นที่ดุดัน และเด็ดขาด พร้อมกับพาทีมชาติอาร์เจนตินาประสบความสำเร็จในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

16. เปา คูบาร์ซี

ในช่วงที่ บาร์เซโลนา เจอวิกฤตเรื่องการเงิน นั้นการแจ้งเกิดของกองหลังดาวรุ่งรายนี้กลับกลายเป็นการหาโอกาสจากวิกฤตอย่างแท้จริง ซึ่งเขาก็พิสูจน์ตัวเองให้เห็นแล้วว่ามีดีมากพอจะก้าวขึ้นมาเป็นกองหลังระดับท็อปในอนาคต

15. มิกกี้ ฟาน เดอ เฟน

กองหลังชาวดัตช์ สถาปนาตัวเองขึ้นเป็นกำลังหลักของ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ อย่างรวดเร็วหลังย้ายมาจาก โวล์ฟสบวร์ก เมื่อซัมเมเมอร์ที่ผ่านมา และในวัยเพียง 22 ปี ฟาน เดอ เฟน เจ้าตัวน่าจะยังพัฒนาฝีเท้าขึ้นไปได้อีกมาก

14. เอแดร์ มิลิเตา

การย้ายออกของ แซร์คิโอ รามอส และ ราฟาเอล วาราน ทำให้ เรอัล มาดริด ต้องเจอช่องโหว่ขนาดใหญ่ในแผงหลัง และ มิลิเตา ใช้เวลาไม่นานในการก้าวขึ้นมาทดแทนด้วยผลงานอันแข็งแกร่ง แต่น่าเสียดายที่ซีซันก่อนเจ้าตัวได้รับบาดเจ็บจนต้องพักยาวหลายเดือน

13. จอห์น สโตนส์

มีช่วงหนึ่งที่ สโตนส์ ตกเป็นตัวสำรองของ อายเมริก ลาปอร์ต์, รูเบน ดิอาส, นาธาน อาเก้ และแม้แต่ เอริค การ์เซีย แต่เจ้าตัวถูก กวาร์ดิโอล่า เรียกกลับคืนสู่ทีมอีกครั้งในบทบาทเซ็นเตอร์ฮาล์ฟฝั่งขวา และแบ็คขวา โดยเวลานี้ เขาถูกใช้งานในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลาง และโชว์ฟอร์มได้อย่างเหลือเชื่อ

12. คิม มิน แจ

แฟนบอลทั่วยุโรปได้เห็นศักยภาพที่แท้จริงของ คิม มิน แจ หลังเป็นกำลังสำคัญช่วยให้ทีมเก่าอย่าง นาโปลี คว้าแชมป์ลีกสำเร็จ ก่อนจะย้ายมายัง บาเยิร์น ในซีซันนี้ และยึดตัวหลักในแผงแบ็คโฟร์ของ “เสือใต้” จนถึงปัจจุบัน

11. มาร์ควินญอส

กองหลังแซมบ้า ย้ายมายัง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ตั้งแต่สมัยยังเป็นดาวรุ่ง และเคยถูกขยับตำแหน่งไปเล่นเป็นกองกลางตัวรับมานานหลายซีซัน แต่ตอนนี้ มาร์ควินญอส กลับมาประจำการในแผงแบ็คโฟร์อีกครั้ง และกลายเป็นผู้บัญชาเกมแนวรับ เปแอสเช เต็มตัว

10. เกลสัน เบรเมอร์

สมัยค้าแข้งกับ โตริโน่ เบรเมอร์ ที่เคยคว้ารางวัลกองหลังที่ดีที่สุดของกัลโช เซเรีย อา ฤดูกาล 2021/22 มาแล้ว ซึ่งทำให้ ยูเวนตุส ยอมจ่ายเงิน 45 ล้านปอนด์ เพื่อเซ็นสัญญาด้วย และจนถึงตอนนี้ปฎิเสธไม่ได้เลยว่า “ม้าลาย” คุ้มค่ากับเงินที่เสียไปทุกบาททุกสตางค์

9. คริสเตียน โรเมโร

แฟน ๆ ของ สเปอร์ส ตกหลุมรัก โรเมโร อย่างรวดเร็วหลังย้ายมาจาก อตาลันต้า เมื่อปี 2021 โดยกองหลังเลือด “ฟ้าขาว” มีการเข้าปะทะดุดัน และไม่เกรงกลัวต่ออาการบาดเจ็บ นอกจากนี้ ยังประสบความสำเร็จอย่างสูงร่วมกับ อาร์เจนตินา มาแล้ว

8. ยอสโก้ กวาร์ดิโอล

ในฤดูกาล 2022/23 ถือเป็นช่วงเวลาที่สุดยอดของ กวาร์ดิโอล หลังจากเป็นคีย์แมนช่วยให้ทีมชาติโครเอเชียผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศศึก ฟุตบอลโลก และคว้าแชมป์ เดเอฟเบ โพคาล ร่วมกับ แอร์เบ ไลป์ซิก จากนั้น ก็ย้ายมาปักหลักเป็นตัวจริงให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในปีนี้ พร้อมกับยกระดับตัวเองจนกลายเป็นแบ็คจอมถล่มประตูให้ทีมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

7. อิบราฮิมา โคนาเต้

ปราการหลังชาวฝรั่งเศส ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมหลังจากที่ย้ายมาค้าแข้งกับ ลิเวอร์พูล โดย โคนาเต้ มีความเร็ว ความนิ่ง และการเข้าสกัดที่แม่นยำ ซึ่งเป็นเป็นคุณสมบัติที่จำเป็นอย่างมากในการเล่นให้กับ หงส์แดง ซึ่งปัจจุบันเขายกระดับตัวเองจนเป็นเบอร์ต้น ๆ ของอังกฤษเรียบร้อยแล้ว

6. กาเบรียล มากัลเญซ

กาเบรียล เคยถูกมองว่าเป็นจุดอ่อนในแนวรับของ อาร์เซนอล แต่หลังยกระดับตัวเองจนจากพาทีม “ปืนใหญ่” ก้าวขึ้นแชมป์ พรีเมียร์ลีก คำวิจารณ์นั้นก็ไม่ถูกพูดถึงอีกเลย โดยกองหลังชาวบราซิล ทำผลงานได้อย่างคงเส้นคงวา และช่วยให้ทีมยังมีลุ้นแชมป์อย่างต่อเนื่อง

5. อเลสซานโดร บาสโตนี่

บาสโตนี่ ปรากฏตัวในทีมชุดใหญ่ของ อินเตอร์ มิลาน ในซีซัน 2020/21 ซึ่งเป็นปีที่ “งูใหญ่” คว้าแชมป์สคูเด็ตโต้ ไปครองได้สำเร็จ และหลังจากนั้นเป็นต้นมา กองหลังวัย 24 ปี ก็สถาปนาตัวเองขึ้นเป็นผู้บัญชาการแนวรับของสโมสร และทีมชาติอิตาลีอย่างเต็มตัว

4. รูเบน ดิอาส

ดิอาส เริ่มต้นอาชีพค้าแข้งที่ แมนฯ ซิตี้ ได้อย่างเหลือเชื่อ โดยเซ็นเตอร์แบ็คชาวโปรตุเกส กวาดรางวัลส่วนตัว และระดับสโมสรมามากมาย ซึ่งหากมองในภาพรวมเขาคือชายผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ เรือใบสีฟ้า ในช่วงหลังอย่างแท้จริง

3. อันโตนิโอ รูดิเกอร์

หลังจากที่ย้ายจาก เชลซี ไป มาดริด และทำงานร่วมกับเทรนเนอร์ คาร์โล อันเชล็อตติ นั้น รูดิเกอร์ แสดงให้เห็นถึงการเป็นเซ็นเตอร์แบ็คระดับโลกอย่างแท้จริง และยังคงพา ราชันชุดขาว ไล่ล่าความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน

2. เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค

ฟาน ไดจ์ค เป็นหนึ่งในกองหลังที่แนวรุกฝ่ายตรงข้ามไม่อยากเผชิญหน้าด้วย โดยดาวเตะดัตช์ เป็นบุคคลสำคัญที่ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ประสบความสำเร็จตลอดช่วงที่ผ่านมา และถึงแม้จะเคยบาดเจ็บรุนแรง แต่ในวัยเลขสามเขายังสามารถกลับมาสู่ฟอร์มที่ดีที่สุดอีกครั้ง

1. วิลเลียม ซาลิบา

หลังกลับมาจากสัญญายืมตัวที่ โอลิมปิก มาร์กเซย ซาลิบา ก็ผลักดันตัวเองเข้ามาอยู่ในทีมตัวจริงของ อาร์เซนอล ได้สำเร็จ และตอนนี้เขากลายเป็นตัวเลือกแรกในตำแหน่งกองหลังตัวกลางของทีมไปเรียบร้อยแล้ว นอกจากเกมรับที่แข็งแกร่ง ดาวเตะเลือดน้ำหอม ยังเป็นผู้ท้าชิงที่ใกล้เคียงที่สุดกับการเป็นกองหลังที่ดีที่สุดในโลก ณ เวลานี้

อ่านบทความเกี่ยวกับ ซีรี่ย์ Welcome to World Class เพิ่มเติมได้ที่นี่

• จัดอันดับผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในโลก ณ เวลานี้
• จัดอันดับแบ็คซ้ายที่ดีที่สุดในโลก ณ เวลานี้
• จัดอันดับแบ็คขวาที่ดีที่สุดในโลก ณ เวลานี้
• จัดอันดับปราการหลังตัวกลางที่สุดในโลก ณ เวลานี้
• จัดอันดับมิดฟิลด์ตัวรับที่ดีที่สุดในโลก ณ เวลานี้
• จัดอันดับมิดฟิลด์ตัวกลางที่ดีที่สุดในโลก ณ เวลานี้
• จัดอันดับมิดฟิลด์ตัวรุกที่ดีที่สุดในโลก ณ ปัจจุบัน
• จัดอันดับปีกซ้ายที่ดีที่สุดในโลก ณ เวลานี้
• จัดอันดับปีกขวาที่ดีที่สุดในโลก ณ เวลานี้
• จัดอันดับกองหน้าที่ดีที่สุดในโลก ณ เวลานี้
• จัดอันดับผู้จัดการทีมที่ดีที่สุดในโลก ณ เวลานี้
• จัดอันดับนักเตะที่ดีที่สุดในโลก ณ ปัจจุบัน