จัดอันดับ 25 ผู้จัดการทีมที่ดีที่สุดในโลก ณ เวลานี้ - RANKED
- ซีรีย์ที่จัดอันดับกุนซือที่ดีที่สุดในโลกยุคปัจจุบัน
- ผู้จัดการทีม คือตำแหน่งที่แทจะสำคัญที่สุดที่ต้องรับผิดชอบในการพาทีมบรรลุเป้าหมาย
- นับถอยหลัง 25 อันดับกับเทรนเนอร์ที่ว่ากันว่าดีที่สุดในโลก
โดย Navapun Munarsa
อัไรที่ขึ้นชื่อว่าที่สุดในโลกนั้น ต้องบอกเลยว่าเป็นเรื่องยากมากที่จะจัดอันดับให้ตรงใจใครหลาย ๆ คน แต่แน่นอนว่านี่แหละคือความสนุกของฟุตบอลกับการมานั่งจับเข่าคุยและถกเถียงกันว่าใครเหนือกว่าใคร
ในวงการฟุตบอลทุกยุคทุกสมัย ผู้จัดการทีม ถือว่ามีอิทธิพลอย่างยิ่งที่ทำให้ทีมประสบความสำเร็จในการคว้าแชมป์รายการต่างๆ และต่อยอดสร้างรากฐานไปยังอนาคต และวันนี้เราจะพาไปพบกับสุดยอดเทรนเนอร์ที่ว่ากันว่าดีที่สุดกับ..
จัดอันดับ 25 ผู้จัดการทีมที่ดีที่สุดในโลก ณ เวลานี้
25. ปีเตอร์ บอสซ์
แม้จะทำผลงานได้ไม่ดีนักกับหลายสโมสรเก่าที่ผ่านๆมา แต่ปัจจุบัน บอสซ์ วัย 60 ปี กำลังจะพา พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น คว้าแชมป์เอเรเดวิซีลีก ฮอลแลนด์ และที่น่าทึ่งไปกว่านั้นคือ เจ้าตัวพาทีมปราชัยในลีกไปเพียงแค่เกมเดียวเท่านั้น
24. ชาบี เฮอร์นันเดซ
อดีตกองกลางระดับตำนานของทีมชาติสเปน พา บาร์เซโลน่า คว้าแชมป์ ลา ลีกา ได้อย่างน่าประทับใจเมื่อซีซันที่ผ่านมา แต่น่าเสียดายที่ในปีนี้ ชาบี ไม่สามารถต่อยอดความสำเร็จได้ และกำลังจะอาลำถิ่น คัมป์ นู หลังจบฤดูกาล
23. จาน ปิเอโร กาสเปรินี
กาสเปรินี เป็นโค้ชที่อยู่ในวงการฟุตบอลแดนมะกะโรนีมานานแล้ว แต่ไม่ได้รับความชื่นชมมากนัก อย่างไรก็ตามสิ่งที่เขาทำกับที่มีงบประมาณการทำทีมจำกัดอย่าง อตาลันต้า ตลอด 7 ปีที่ผ่านมา เจ้าตัวสมควรได้รับเครดิตเต็มๆ
22. รูเบน อโมริม
อโมริม เป็นหนึ่งในกุนซือสายเลือดใหม่ที่น่าจับตามองอย่างมาก และในวัยเพียง 39 ปี เขากำลังจะพา สปอร์ติ้ง ลิสบอน คว้าแชมป์ลีกโปรตุเกส สมัยที่ 2 ในปีนี้ ซึ่งการตกเป็นตัวเลือกแรกในตำแหน่งผู้จัดการทีมคนใหม่ ลิเวอร์พูล ในปีหน้า ก็บ่งบอกความสามารถของเขาได้เป็นอย่างดี
21. โรแบร์โต เด แซร์บี
เด แซร์บี เข้ามาสานต่อรากฐาน ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ที่ เกรแฮม พอตเตอร์ วางไว้ในถิ่น เอเม็กซ์ สเตเดียม ได้อย่างยอดเยี่ยม และช่วยให้พลพรรค “นกนางนวล” เข้าไปเล่นในฟุตยุโรปครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสรได้สำเร็จ โดยเวลานี้ เจ้าตัวกำลังได้รับความสนใจจาก ลิเวอร์พูล, บาร์เซโลน่า และ บาเยิร์น มิวนิค
20. เอริค เทน ฮาก
ฤดูกาลแรกของ เทน ฮากที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด น่าประทับใจมากหลังจากพาทีมคว้าแชมป์ คาราบาว คัพ และคว้าตั๋วไปเล่นใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้สำเร็จ แต่ผลงานในปีนี้ โค้ชชาวดัตช์ กำลังพา “ปีศาจแดง” เจอวิกฤตฟอร์มไม่สม่ำเสมออย่างหนัก
19. มิเชล
เทรนเนอร์ชาวสเปน วัย 48 ปี ถือเป็นอีกหนึ่งคนที่ทำผลงานได้ร้อนแรงที่สุดในยุโรปในเวลานี้ หลังจากพา คิโรน่า ทำผลงานได้อย่างเหนือความคาดหมายด้วยการรั้งอันดับ 3 ของศึก ลา ลีกา และขับเคี่ยวแย่งแชมป์กับ เรอัล มาดริด, บาร์เซโลนา รวมถึง แอตเลติโก มาดริด ได้อย่างสูสี
18. จูเลียน นาเกิลส์มันน์
นาเกลส์มันน์ ได้รับการปฏิบัติไม่เป็นธรรมนักที่ บาเยิร์น แต่พรสวรรค์ที่มีก็ทำให้เจ้าตัวได้ขยับไปคุมทีมชาติเยอรมัน และในวัยเพียง 36 ปี เขากำลังจะพาพลพรรค “อินทรีเหล็ก” ทำศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร 2024 ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
17. หลุยส์ เอ็นริเก้
เอ็นริเก้ ได้รับมอบหมายให้พา ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ก้าวไปสู่ยุคใหม่หลังหมดยุคซุเปอร์สตาร์อย่าง เนย์มาร์, ลิโอเนล เมสซี และล่าสุด คิเลียน เอ็มบับเป้ ที่กำลังจะอำลาสโมสร และโค้ชชาวสเปน ก็แสดงให้เห็นว่า เขามีฝีมือมากพอในการถ่ายเลือด เปแอสเช ได้สำเร็จ
16. มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี
อัลเลกรี วัย 56 ปี เป็นคนคุ้นเคยของแฟนบอล ยูเวนตุส มานานแล้วหลังจากทำงานกับทีมถึง 2 ช่วงเวลา และเคยพาทีมคว้าแชมป์ เซเรีย อา ได้ถึง 5 สมัย แต่น่าเสียดายที่ในปีนี้ เจ้าตัวไม่สามารถพา “ม้าลาย” เบียดลุ้นแชมป์กับ อินเตอร์ มิลาน ได้
15. อันจ์ โปสเตโคกลู
แม้จะเข้ามากุมบังเหียน ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เป็นปีแรก แต่โค้ชชาวออสเตรเลีย ก็เปลี่ยนแปลงแนวทางการเล่นของพลพรรค “ไก่เดือยทอง” ให้กลายเป็นทีมที่เล่นฟุตบอลได้น่าตื่นเต้น และเต็มไปด้วยคุณภาพ ซึ่งน่าสนใจว่าในปีที่ 2 โปสเตโคกลู จะพาทีมไปได้ไกลเพียงใด
14. โธมัส ทูเคิ่ล
ทูเคิ่ล จะไม่ได้เป็นผู้จัดการทีม บาเยิร์น อีกต่อไปแล้ว หลังจากมีปัญหาภายในสโมสรมากมาย แต่สิ่งที่เขาทำกับพลพรรค “เสือใต้” ในช่วงเวลาที่อยู่ในตำแหน่งนั้น ก็ไม่สามารถมองคุณภาพของเจ้าตัวได้เลยแม้แต่น้อย
13. ซีเนดีน ซีดาน
อันดับ 13 อาจจะสูงไปสักหน่อยสำหรับผู้จัดการทีมที่ตกงานมาตั้งแต่ปี 2021 แต่ก็ยังมีโค้ชไม่มากนักที่จะพูดได้ว่าพวกเขาเคยคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้ 3 สมัย โดยมีสโมสรมากมายที่อยากได้ตัว ซีดาน ไปร่วมงานด้วย แต่ดูเหมือนว่า ตำนานจอมทัพทีมชาติฝรั่งเศส กำลังรอโอกาสที่สมบูรณ์แบบที่จะกลับยืนข้างสนามอีกครั้ง
12. สเตฟาโน ปิโอลี
หลังจากไร้แชมป์ลีกมาอย่างยาวนาน ปิโอลี ก็ทำให้ เอซี มิลาน ได้สัมผัสแชมป์สคูเด็ตโตอีกครั้งในซีซัน 2021-2022 และเจ้าตัวยังพา “รอสโซเนรี” ผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก เมื่อฤดูกาลที่แล้ว แต่ว่าต้องตกรอบด้วยฝีมือของ อินเตอร์ คู่อริตลอดกาล
11. ดิดิเยร์ เดชองส์
ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันการคุมทีมชาติฝรั่งเศสเป็นเรื่องยากเสมอ แต่ เดส์ชองส์ แสดงให้เห็นแล้วว่า เขาสุดยอดแค่ไหน หลังจากพาพลพรรค “ตราไก่” คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก ปี 2018 และเข้าถึงรอบชิงฯ ในอีก 4 ปี ต่อมา แ
10. ลิโอเนล สกาโลนี
สกาโลนี เป็นกุนซือทีมชาติอาร์เจนตินาคนแรกที่พาทีมคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกนับตั้งแต่ปี 1986 โดยเอาชนะฝรั่งเศส ของ เดชองส์ ในรอบชิงชนะเลิศ ปี 2022 และสิ่งที่น่าเหลือเชื่อก็คือ ในวัย 45 ปี เจ้าตัวไม่เคยคุมทีมระดับสโมสรเลยแม้แต่ครั้งเดียว
9. ชาบี อลอนโซ่
บุคคลผู้ปฏิวัติ ที่ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น อลอนโซ่ เข้ามาคุมทีมเมื่อปี 2022 ในช่วงที่ “ห้างขายยา” ยังอยู่ในโซนตกชั้น แต่เข้าใช้เวลาเพียงปีเดียวในการพาทีมกลับมาคว้าแชมป์ บุนเดสลีกา และยังไม่พบกับความพ่ายแพ้เลยแม้แต่เกมเดียวรวมทุกรายการในซีซันนี้
8. ลูเซียโน่ สปัลเล็ตติ
สปัลเล็ตติ พส นาโปลี คว้าแชมป์ลีกแรกในรอบ 33 ปีของสโมสรเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งเป็นความสำเร็จที่ไม่สามารถมองข้ามได้เลย และตอนนี้ เจ้าตัวก็ก้าวมารับงานใหญ่ด้วยการคุมทีมชาติอิตาลี ซึ่งเป็นการทำงานในระดับนานาชาติครั้งแรกอีกด้วย
7. อูไน เอเมรี่
เทรนเนอร์จอมแท็คติคชาวสเปน ทำผลงานได้อย่างน่าชื่นชมกับ แอสตัน วิลล่า ด้วยการพารทีมรั้งอันดับ 4 ในตารางคะแนน และมีโอกาสสูงที่จะคว้าตั๋วไปเล่นใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ปีหน้า นอกจากนี้ เอเมรี ยังทำให้ วิลล่า กลายเป็นทีมที่แข็งแกร่งทั้งเกมรับ และเกมรุก
6. ดิเอโก้ ซิเมโอเน่
ทุกครั้งที่คุณคิดว่าการคุมทีมของ ซิเมโอเน่ ที่ แอตฯ มาดริด เดินไปในทางที่ดีแล้ว แต่โค้ชชาวอาร์เจนไตน์ ยังหาวิธีแปลกใหม่มาพัฒนาทีมอยู่เสมอ และการคุมทีมระดับสูงในเวลานานกว่าทศวรรษนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับผอาชีพผู้จัดการทีม
5. มิเกล อาร์เตต้า
หลายคนมองว่า อาร์เตต้า อาจจะเป็นอีกการทดลองที่ล้มเหลวอีกครั้งของ อาร์เซนอล แต่เทรนเนอร์ชาวสเปนค่อยๆ สร้างทีมในแนวทางของตัวเองจนทำให้ “ปืนใหญ่” กลายเป็นทีมระดับท็อป และการลุ้นแชมป์ลีก 2 ปีติดต่อกัน คงบอกถึงศักยภาพของเขาได้เป็นอย่างดี
4. ซิโมน อินซากี
เหตุผลหลักที่ อินเตอร์ เข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อฤดูกาลที่แล้ว และใกล้จะคว้าแชมป์กัลโช เซเรีย อา ในปีนี้ มันเป็นการวางแท็คติคของ และการบริหารทีมของ อินซากี อย่างแท้จริง โดยปัจจุบัน “งูใหญ่” กลายเป็นทีมที่ไม่มีใครอยากจะเผชิญหน้าด้วยแน่นอน
3. คาร์โล อันเชล็อตติ
ถ้าในปีนี้ เรอัล มาดริด สามารถคว้าแชมป์ ลา ลีกา หรือ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก โดยมี โฆเซลู เป็นตัวเลือกกองหน้าตัวกลางเพียงตัวเลือกเดียว อันเชล็อตติ ควรจะขึ้นไปยืนเป็นอันดับ 1 อย่างไม่มีใครกล้าปฏิเสธ
2. เจอร์เก้น คล็อปป์
แฟนบอล ลิเวอร์พูล ยังคงโศกเศร้ากับข่าวที่ว่า คล็อปป์ จะอำลา แอนฟิลด์ เมื่อสิ้นสุดฤดูกาล โดยชาวเยอรมันเป็นคนที่ปฏิวัติทีม “หงส์แดง” อย่างแท้จริง นับตั้งแต่เข้ามาทำงานในปี 2015 และตลอด 9 ปีที่ผ่านมา สิ่งที่เขาสร้างขึ้นมันกลายเป็นตำนานไปแล้ว
1. เป๊ป กวาร์ดิโอล่า
ไม่มีโค้ชคนใดในวงการฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จมากกว่านายใหญ่คนปัจจุบันของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อีกแล้ว และสถิติการพาทีมคว้าแชมป์ 1 รายการต่อ 1 ซีซัน จะยังคงอยู่ต่อไป ซึ่งไม่เกินไปนักที่จะบอกว่า เขาเป็นกุนซือที่ดีที่สุดที่ในปัจจุบัน และอาจจะดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาอีกด้วย
อ่านบทความเกี่ยวกับ ซีรี่ย์ Welcome to World Class เพิ่มเติมได้ที่นี่
- จัดอันดับ 25 ผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในโลก ณ เวลานี้
- จัดอันดับ 25 แบ็คซ้ายที่ดีที่สุดในโลก ณ เวลานี้
- จัดอันดับ 25 แบ็คขวาที่ดีที่สุดในโลก ณ เวลานี้
- จัดอันดับ 25 ปราการหลังตัวกลางที่สุดในโลก ณ เวลานี้
- จัดอันดับ 25 มิดฟิลด์ตัวรับที่ดีที่สุดในโลก ณ เวลานี้
- จัดอันดับ 25 มิดฟิลด์ตัวกลางที่ดีที่สุดในโลก ณ เวลานี้
- จัดอันดับ 25 มิดฟิลด์ตัวรุกที่ดีที่สุดในโลก ณ ปัจจุบัน
- จัดอันดับ 25 ปีกซ้ายที่ดีที่สุดในโลก ณ เวลานี้
- จัดอันดับ 25 ปีกขวาที่ดีที่สุดในโลก ณ เวลานี้
- จัดอันดับ 25 กองหน้าที่ดีที่สุดในโลก ณ เวลานี้
- จัดอันดับ 25 ผู้จัดการทีมที่ดีที่สุดในโลก ณ เวลานี้
- จัดอันดับนักเตะที่ดีที่สุดในโลก ณ ปัจจุบัน