สรุปผลฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก วันนี้: เชลซี พ่ายสมัน, เปแอสเช คว่ำ ยูเว่, ฮาลันด์ ซัลโวพา แมนฯ ซิตี้ ฉลุย

สรุปผล ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก คืนวันอังคารที่ 6 กันยายน เกมเปิดหัวของรอบแบ่งกลุ่มโดยมีคู่พลิกล็อค เชลซี บุกพ่าย ดินาโม ซาเกร็บ ขณะที่บิ๊กแมตช์ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เปิดบ้านคว่ำ ยูเวนตุส และ เออร์ลิง ฮาลันด์ ยังฮ็อตไม่เลิกซัดพา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซิวชัย

กลุ่มอี

ดินาโม ซาเกร็บ 1-0 เชลซี

[1-0] ออร์ซิช 13'

เชลซี พลิกล็อคพ่าย ดินาโม ซาเกร็บ 1-0 โดยเจ้าบ้านได้ประตูโทนจาก มิสลาฟ ออร์ซิช ในนาทีที่ 13 ล้มยักษ์คว้า 3 คะแนนแรกไปได้อย่างงดงาม

โธมัส ทูเคิล จับ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง หัวหอกคนใหม่จาก บาร์เซโลนา ออกสตาร์ทเป็นหนึ่งใน 3 ประสานแดนหน้าเคียงข้างกับ ราฮีม สเตอร์ลิง และ ไค ฮาแวร์ตซ์ แต่ทีมตกเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำไปก่อนตั้งแต่นาทีที่ 13 และไม่สามารถทวงประตูคืนได้แม้ว่าจะเป็นฝ่ายครอบครองบอลบุกเข้าใส่อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งเกมก็ตาม

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
- นักเตะใหม่สอบตก ตัดเกรดแข้ง เชลซี เกมบุกพ่าย ดินาโม ซาเกร็บ 1-0 เมื่อคืนที่ผ่านมา: Player Ratings
- ดินาโม ซาเกร็บ 1-0 เชลซี: เก็บตกประเด็นหลังเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก สิงห์บลู ประเดิมสุดบู่

เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก 1-1 เอซี มิลาน

[1-0] โอคาฟอร์ 28'
[1-1] ซาเลมาเกอร์ส 40'

เจ้าถิ่นได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากความสามารถเฉพาะตัวของ โนอาห์ โอคาฟอร์ เลี้ยงจี้เข้าหากรอบเขตโทษ เผาเครื่อง ปิแอร์ คาลูลู จนล้มหงายท้องก่อนจบด้วยขวาบอลลอดขา ไมค์ เมญ็อง ตุงตาข่าย

ประตูตีเสมอ 1-1 ของ มิลาน เกิดจากจังหวะตัดบอลได้ก่อนสวนกลับเร็ว บอลไปถึง ราฟาเอล เลเอา ที่กราบซ้ายเลี้ยงจี้เข้าหากรอบเขตโทษก่อนเปิดเลียดให้ อเล็กซิส ซาเลมาเกอร์ส จับบอลหนึ่งจังหวะก่อนซัดด้วยซ้ายเน้นๆ

กลุ่มเอฟ

เซลติก 0-3 เรอัล มาดริด

[0-1] วินิซิอุส จูเนียร์ 56'
[0-2] โมดริช 60'
[0-3] อาซาร์ 77'

เกมที่ เซลติก พาร์ค ออกสตาร์ทด้วยทีมเยือนต้องเสีย คาริม เบนเซมา จากปัญหาอาการบาดเจ็บตั้งแต่นาทีที่ 30 โดยถูกเปลี่ยนตัวออกแทนที่โดย เอเด็น อาซาร์ โดยเจ้าถิ่นกลายเป็นทีมที่สร้างสรรค์โอกาสจบสกอร์อย่างถนัดถนี่ได้มากกว่าในครึ่งแรกแต่พวกเขาไม่เด็ดขาดมากพอที่จะส่งบอลผ่านมือ ธิโบต์ กูร์ตัวส์

ครึ่งหลังเริ่มต้นได้ไม่นาน ทีมของ คาร์โล อันเชลอตติ มาได้ประตูเบิกร่อง 1-0 จากจังหวะเซ็ตเกมต่อแบนที่หน้าปากประตูตัวเอง แกะเพรสซิงของทัพ ม้าลายเขียวขาว มาได้จน เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ หลุดขึ้นไปที่กราบขวาก่อนเปิดเลียดให้ วินิซิอุส แท็ปอินเป็นประตู

ให้หลังจากนั้นไม่กี่อึดใจทัพ ราชันชุดขาว หนีห่างเป็น 2-0 จากการพลิกบอลได้ที่กลางสนามของ อาซาร์ เลี้ยงจี้เข้าหากรอบเขตโทษก่อนถวายพานให้ ลูก้า โมดริช ล็อคหนี 2 แนวรับเจ้าถิ่น ดีดไซด์ก้อยด้วยขวาบอลไปซุกที่ก้นตาข่าย

โลส บลังโกส ย้ำชัยในช่วงท้ายเมื่อบอลเปลี่ยนแกนของ โทนี โครส ไปถึง ดานี การ์บาฆาล ที่ในกรอบเขตโทษแปะกลับมาให้ อาซาร์ แปในด้วยซ้ายในกรอบ 6 หลาเป็นประตู

แอร์เบ ไลป์ซิก 1-4 ชัคตาร์​ โดเน็ทส์ค

[0-1] ชเวด 16'
[1-1] ซิมาคาน 57'
[1-2] ชเวด 58'
[1-3] มูดริค 76'
[1-4] ตราโอเร 85'

ชัคตาร์ ตัวแทนหนึ่งเดียวจาก ยูเครน ฟอร์มฮ็อตเมื่อพวกเขาบุกถล่ม ไลป์ซิก ขาดลอยคาถิ่น 4-1 โดย มาเรียน ชเวด กองหน้าชาว ยูเครน วัย 25 ปีรับบทพระเอกซัดคนเดียว 2 ประตูให้กับทีม

ชเวด ส้มหล่นเมื่อ เปแตร์ กูลัคซี ทำบอลลั่นที่นอกกรอบเขตโทษในจังหวะพยายามเซ็ตบอลจากแนวรับทำให้ดาวยิง ชัคตาร์ เก็บบอลจบสกอร์สู่ก้นตาข่ายโล่งๆ เป็นประตู 1-0 ตั้งแต่นาทีที่ 16

ไลป์ซิก ตีเสมอในนาทีที่ 56 จากการประสานงานของ อันเดร ซิลวา กับ โดมินิค โซบอสซ์ลาย ที่หน้าปากประตูทีมเยือนก่อนไหลให้ โมฮาเหม็ด ซิมาคาน เติมขึ้นมาแปยัดไส้ตุงตาข่ายเป็นลูก 1-1

ให้หลังจากนั้นเพียง 1 นาที ชเวด คนเดิมรับบอลที่บริเวณเส้นกรอบเขตโทษเจ้าบ้านในจังหวะสวนกลับเร็ว ซัดด้วยขวาบอลไปแฉลบแนวรับ ไลป์ซิก ไปจบที่ก้นตาข่ายชนิดที่ กูลัคซี พุ่งเสียจังหวะเป็นการขึ้นนำอีกครั้ง 2-1 ของทีมเยือน

ไลป์ซิก พยายามโหมทวงประตูคืนหลังจากนั้นทำให้พวกเขาเปิดพื้นที่โล่งที่หลังบ้าน เกมสวนกลับของ ชัคตาร์ นำมาสู่ประตู 3-1 ในนาทีที่ 36 โดย มูดริค ก่อนที่ ลาซินา ตราโอเร จะยิงปิดท้ายเป็นลูก 4-1

กลุ่มจี

โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 3-0 เอฟซี โคเปนเฮเกน

[1-0] รอยส์ 35'
[2-0] เกร์เรย์โร 42'
[3-0] เบลลิงแฮม 83'

เกมที่ ซิกนัล อิดูนา พาร์ค ตกเป็นของเจ้าถิ่นโดยทัพ เสือเหลือง ได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะสวนกลับเร็วและความยอดเยี่ยมของ มาร์โก รอยส์ รับบอลที่หน้าเขตโทษก่อนพลิกหนีแนวรับทีมเยือนก่อนซัดเลียดด้วยซ้าย บอลพุ่งไปซุกที่ก้นตาข่ายตั้งแต่นาทีที่ 35

ก่อนหมดครึ่งแรก 3 นาที ดอร์มุนด์ หนีห่างเป็น 2-0 จากจังหวะทำชิ่ง 1-2 ระหว่าง ราฟาเอล เกรย์เรย์โร กับ จิโอวานนี เรย์นา ให้ดาวเตะทีมชาติ โปรตุเกส หลุดไปล่อเป้าจ่อๆ ไม่พลาด

ทีมของ เอดิน เตอร์ซิช มาได้ประตูย้ำชัยในช่วงท้ายเกมเมื่อพวกเขาตัดบอลจากการขึ้นเกมของ โคเปนเฮเกน ได้ที่กลางสนามก่อนโจมตีที่กราบขวาไปถึง เรย์นา ก่อนเปิดเลียดให้ เบลลิงแฮม แท็ปอินบริเวณจุดโทษเหน่งๆ

เซบียา 0-4 แมนเชสเตอร์ ซิตี้

[0-1] ฮาลันด์ 20'
[0-2] โฟเด้น 58'
[0-3] ฮาลันด์ 67'
[0-4] ดิอาส 90+2'

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไร้ปัญหาในเกมเปิดหัว ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อบุกอัด เซบียา ขาดลอย 4-0 จากการทำ 2 ประตูของ เออร์ลิง ฮาลันด์ คงฟอร์มร้อนแรงต่อเนื่องถล่มประตูทำสถิติ 12 ประตูจากการลงเล่น 8 เกมในสีเสื้อ เรือใบสีฟ้า เข้าไปแล้ว

ประตู 1-0 ของ ซิตี้ มาจากช็อตขึ้นเกมที่ฝั่งขวา ฟิล โฟเด้น ไหลให้ เควิน เดอ บรอยน์ ในกรอบเขตโทษก่อนตวัดเร็วให้ ฮาลันด์ แท็ปอินในระยะเผาขนสู่ก้นตาข่ายโล่งๆ

โฟเด้น บวกสกอร์เป็น 2-0 ในครึ่งหลังเมื่อรับบอลจาก ชูเอา คันเซโล ในกรอบเขตโทษ แต่งบอลหนีแนวรับทีมเยือนก่อนซัดด้วยซ้ายบอลพุ่งเลียดหนีมือ โบโน เสียบมุม

ฮาลันด์ ยิงลูก 3-0 จากการตามซ้ำดาบสองลูกยิงของ โฟเด้น ก่อน รูเบน ดิอาส จะแท็ปอินลูกเปิดเลียดของ คันเซโล เป็นประตูปิดกล่อง 4-0 ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ

กลุ่มเอช

ปารีส แซงต์-แชร์กแมง 2-1 ยูเวนตุส

[1-0] เอ็มบัปเป้ 5'
[2-0] เอ็มบัปเป้ 22'
[2-1] แม็คเคนนี 53'

แนวรุกปรอทแตกของทัพ เปแอสเช เผาเครื่องทัพ ม้าลาย คว้าชัยเปิดหัวศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม

การประสานงานระหว่าง เนย์มาร์ กับ คิลิยัน เอ็มบัปเป้ นำมาซึ่งการได้ประตูขึ้นนำ 1-0 ตั้งแต่นาทีที่ 5 ของเกมที่ ปาร์ก เดส์ แปรงซ์ เมื่อดาวเตะ บราซิเลียน งัดบอลด้วยขวาข้ามหัว เกลย์สัน เบรเมอร์ ให้ เอ็มบัปเป้ สปีดไปวอลเลย์ด้วยขวาเน้นๆ ตุงตาข่ายชนิดที่ มัตเตีย เปริน ไม่อาจปัดบอลพ้น

ทีมของ คริสตอฟ กัลติเยร์ หนีห่างเป็น 2-0 ในนาทีที่ 22 เมื่อการประสานงานระหว่าง อชราฟ ฮาคิมี กับ เอ็มบัปเป้ ทำให้สตาร์ชาว ฝรั่งเศส ได้ตะบันเหน่งๆ ในกรอบเขตโทษก่อนจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ดังกล่าว

ยูเว่ ได้ประตูตีตื้นเป็น 2-1 ช่วงต้นครึ่งหลังจากจังหวะเตะมุมเล่นสั้นที่ฝั่งซ้าย ฟิลิป คอสติช เปิดให้ เวสตัน แม็คเคนนี ขึ้นโขกเต็มหัว ก่อนจะตบเกมด้วยสกอร์ดังกล่าว

เบนฟิก้า 2-0 มัคคาบี ไฮฟา

[1-0] ราฟา ซิลวา 50'
[2-0] กริมัลโด้ 54'

ประตูขึ้นนำ 1-0 ของเจ้าถิ่นเกิดขึ้นในครึ่งหลังจากการขึ้นเกมที่กราบซ้ายโดย อเลฮานโดร กริมัลโด้ เปิดบอลให้ ราฟา ซิลวา โฉบเปลี่ยนทางบอลพังประตู ก่อนที่ กริมัลโด้ จะซัดด้วยซ้ายที่นอกกรอบเขตโทษ บอลฮุคลงเสียบตาข่ายหมดจดเป็นประตู 2-0 ให้หลังจากนั้นเพียง 4 นาที