สรุปผลฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก วันนี้: เชลซี เชือดนิ่ม มิลาน, ยูเวนตุส พลิกพ่ายสมัน, เปแอสเช เจ๊า, ราชัน โกงตาย

ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง เชลซี, มัสซิมิเลียโน อัลเลกรี เอซี มิลาน, เนย์มาร์ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และ อันโตนิโอ รูดิเกอร์ เรอัล มาดริด
ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง เชลซี, มัสซิมิเลียโน อัลเลกรี เอซี มิลาน, เนย์มาร์ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และ อันโตนิโอ รูดิเกอร์ เรอัล มาดริด /
facebooktwitterreddit

เกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2022/23 นัดที่ 4 ของรอบแบ่งกลุ่มคืนวันอังคารที่ผ่านมา ไฮไลท์อยู่ที่บิ๊กแมตช์ที่ ซาน ซิโร เชลซี บุกเฉือนเอาชนะ เอซี มิลาน 2-0

ขณะที่คู่อื่น ยูเวนตุส พลิกล็อคถล่มทลาย บุกปราชัย มัคคาบี จนทำให้เก้าอี้ของ มัสซิมิเลียโน อัลเลกรี ระส่ำ, ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ทำได้แค่เสมอกับ เบนฟิก้า และ เรอัล มาดริด หวิดดับที่ วอร์ซอว์ ในเกมดวล ชัคตาร์


กลุ่มอี

เอซี มิลาน 0-2 เชลซี

[0-1] จอร์จินโญ (ลูกจุดโทษ) 21'
[0-2] โอบาเมยอง 34'

Pierre-Emerick Aubameyang
AC Milan v Chelsea FC: Group E - UEFA Champions League / Marco Luzzani/GettyImages

เชลซี บุกคว้าชัยเหนือ มิลาน หายห่วง 2-0 จากประตูของ จอร์จินโญ ด้วยลูกจุดโทษและ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง ทั้งสองประตูตั้งแต่ครึ่งแรก

ระหว่างที่เกมดำเนินไปโดยที่ไม่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งครองโมเมนตัมได้ชัดเจน บอลทะลุช่องจาก รีซ เจมส์ ที่ริมเสนฝั่งขวาทำให้ เมสัน เมาท์ หลุดเข้าไปดวลกับนายด่านเจ้าบ้าน ทว่าถูก ฟิคาโย โทโมรี ดึงล้มลง ผู้ตัดสินเป่าให้เป็นลูกจุดโทษและเป็นใบแดงสำหรับ โทโมรี ทันทีโดย จอร์จินโญ รับหน้าที่สังหารไม่พลาด

สิงห์บลู หนีห่างเป็น 2-0 นาทีที่ 34 จากการขึ้นเกมที่หน้าหัวกะโหลก บอลตั้งต้นจาก โอบาเมยอง ประสานงานกับ มาเตโอ โควาชิช ก่อนที่จะแทงเข้าบริเวณเส้นกรอบเขตโทษถึง เมาท์ ปาดเร็วหวังให้ ราฮีม สเตอร์ลิง แต่บอลเลยไปถึง ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง ได้กดเหน่งๆ

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง;

ดินาโม ซาเกร็บ 1-1 เร้ดบูล ซัลซ์บวร์ก

[0-1] เซวัลด์ 12'
[1-1] จูบิชิช 40'

Arijan Ademi
Dinamo Zagreb v FC Salzburg: Group E - UEFA Champions League / Jurij Kodrun/GettyImages

เกมที่ โครเอเชีย ลงเอยด้วยผลเสมอแบบบัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่นชนิดที่ทั้ง 2 ทีมใช้โอกาสแบบทิ้งขว้าง

เกมออกสตาร์ทด้วยประตูขึ้นนำของทีมเยือนจาก นิโคลาส เซวัลด์ ตั้งแต่ไก่โห่ก่อนที่เจ้าถิ่นจะตามตีเสมอสำเร็จก่อนจบครึ่งแรกราว 5 นาทีจากการยิงไกลของ โรเบิร์ต จูบิชิช ไปแฉลบแนวรับของทีมเยือนซุกที่ก้นตาข่าย ทำให้เพื่อนร่วมทีมที่ยืนล้ำหน้าอยู่ในจังหวะดังกล่าวไม่ถูกพิจารณาเป็นตัวแปร


กลุ่มเอฟ

เซลติก 0-2 แอร์เบ ไลป์ซิก

[0-1] แวร์เนอร์ 75'
[0-2] ฟอร์สเบิร์ก 84'

FBL-EUR-C1-CELTIC-LEIPZIG
FBL-EUR-C1-CELTIC-LEIPZIG / ANDY BUCHANAN/GettyImages

ไลป์ซิก เร่งเครื่องช่วงท้ายเกมเบิ้ล 2 ประตูเข่นบุกเข่นเอาชนะ เซลติก 2-0 จากประตูของ ติโม แวร์เนอร์ และ เอมิล ฟอร์สเบิร์ก

ประตูแรกของทีมเยือนมาจากจังหวะที่ อันเดร ซิลวา หลุดไปถึงสุดเส้นหลังที่กราบซ้ายก่อนเปิดกลับมาให้ดาวยิงทีมชาติ เยอรมนี ตั้งหัวโขกเหน่งๆ บริเวณกรอบ 6 หลาไม่พลาด ตามด้วยประตูฝังก่อนหมดเวลาไม่กี่อึดใจจากช็อตที่ แวร์เนอร์ ถวายพานให้ เอมิล ฟอร์สเบิร์ก สังหารประตูปิดกล่อง

ชัคตาร์ โดเน็ทสค์ 1-1 เรอัล มาดริด

[1-0] ซุบคอฟ 46'
[1-1] รูดิเกอร์ 90+5'

Antonio Rudiger
Shakhtar Donetsk v Real Madrid: Group F - UEFA Champions League / Adam Nurkiewicz/GettyImages

เรอัล มาดริด โกงตายตามตีเสมอ ชัคตาร์ นาทีสุดท้ายของการทดเวลาบาดเจ็บให้เกมที่ วอร์ซอว์ ลงเอยด้วยผลเสมอ 1-1 ชนิดที่ต้องแลกมาด้วยเลือดของ อันโตนิโอ รูดิเกอร์

ทัพ ราชันชุดขาว พลาดท่าไปก่อนตั้งแต่นาทีแรกของครึ่งหลังจากจังหวะครอสของ โบดาน มิคาลินเชนโก้ ให้ โอเล็กซานเดอร์ ซุบคอฟ ขึ้นโขกเหน่งๆ ผ่านมือ อันเดรย์ ลูนิน ตุงตาข่ายโดนประตูตีเสมอของทัพ โลส บลังโกส ต้องรอจนถึงนาทีสุดท้ายของการทดเวลาบาดเจ็บเมื่อ โทนี โครส วางบอลยาวสาดโด่งไปลุ้นที่ในกรอบเขตโทษ โดยเป็น รูดิเกอร์ ที่ทะยานโหม่งเข้าถึงบอลก่อนการออกมาตัดของนายด่านเจ้าบ้าน โขกส่งบอลเป็นประตู

โดยช็อตดังกล่าวทำให้ รูดิเกอร์ ประสานงาเข้ากับ อนาโตลี ทรูบิน มือกาว ชัคตาร์ อย่างจังจนเลือดอาบ


กลุ่มจี

เอฟซี โคเปนเฮเกน 0-0 แมนเชสเตอร์ ซิตี้

FC Copenhagen vs Manchester City: UEFA Champions League
FC Copenhagen vs Manchester City: UEFA Champions League / Anadolu Agency/GettyImages

แมนฯ ซิตี้ ผ่านเข้าสู่รอบต่อไปเป็นที่เรียบร้อยในเกมที่พวกเขาพัก เออร์ลิง ฮาลันด์ ไว้บนม้านั่งสำรองโดยเหลือ 10 คนตั้งแต่ครึ่งแรกเก็บผลเสมอจาก เดนมาร์ก

ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ส่งบอลสู่ก้นตาข่ายสำเร็จทั้งแต่นาทีที่ 11 จากการตะบันไกลสุดสวยของ โรดรี แต่วีเออาร์จับให้เป็นจังหวะล้ำหน้าไปก่อนเมื่อบอลไปถูกแขนของเพื่อนร่วมทีมในช็อตก่อนหน้า

ทัพ เรือใบสีฟ้า มาได้ลูกจุดโทษช่วงกลางครึ่งแรกทว่า ริยาด มาห์เรซ ยิงไปติดเซฟ คามิล กราบารา อย่างจัง ก่อนที่ไม่กี่อึดใจถัดมา เซร์คิโอ โกเมซ จะไปดึงแนวรุกเจ้าถิ่นที่หลุดเดี่ยวไปลุ้นทำประตูและถูกใบแดงไล่ออกจากสนามทันที

โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 1-1 เซบียา

[0-1] นิอองซู 18'
[1-1] เบลลิงแฮม 35'

Jude Bellingham
Borussia Dortmund v Sevilla FC: Group G - UEFA Champions League / BSR Agency/GettyImages

เซบียา บุกยันเสมอ ดอร์ทมุนด์ ถึงถิ่นโดยพวกเขายังเป็นฝ่ายขึ้นนำก่อนที่จะถูกเจ้าหนูมหัศจรรย์ จู๊ด เบลลิงแฮม ซัดประตูตีเสมอ นับเป็นประตูโดยนับเป็นประตูที่ 4 ติดต่อกันในรายการ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ของแข้งวัย 19 ปีเข้าไปแล้ว


กลุ่มเอช

ปารีส แซงต์-แชร์กแมง 1-1 เบนฟิก้า

[1-0] เอ็มบัปเป้ (จุดโทษ) 40'
[1-1] ชูเอา มาริโอ (จุดโทษ) 62'

Kylian Mbappe
Paris Saint-Germain v SL Benfica: Group H - UEFA Champions League / Catherine Steenkeste/GettyImages

ทั้ง เปแอสเช และ เบนฟิก้า นำโด่งในฐานะจ่าฝูงและรองจ่าฝูงของกลุ่ม (8 แต้มเท่ากัน) หลังผลเสมอที่ ปาร์ก เดส์ แปรงซ์ โดย คิลิยัน เอ็มบัปเป้ ซัดประตูที่ 31 ใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ของตนเองจากลูกจุดโทษก่อนที่ ชูเอา มาริโอ จะซัดโทษเช่นเดียวกันตามตีเสมอในครึ่งหลัง

มัคคาบี ไฮฟา 2-0 ยูเวนตุส

[1-0] อัตซิลี 7'
[2-0] อัตซิลี 42'

FBL-EUR-C1-MACCABI HAIFA-JUVENTUS
FBL-EUR-C1-MACCABI HAIFA-JUVENTUS / RONALDO SCHEMIDT/GettyImages

เกมพลิกล็อคประจำค่ำคืนถึงขนาดที่ มัสซิมิเลียโน อัลเลกรี และประธานสโมสร ยูเวนตุส ต้องออกมาแถลงข่าวยืนยันว่านายใหญ่ชาว อิตาเลียน ยังคงอยู่ในตำแหน่งกุนซือทัพ ม้าลาย ต่อไป ท่ามกลางความไม่พอใจของแฟนบอล เบียงโคเนรี

เจ้าถิ่นได้ประตูขึ้นนำตั้งแต่เริ่มเกมไม่กี่อึดใจเมื่อลูกครอสของ ปิแอร์ กอร์นู ที่กราบซ้ายโค้งไปเข้าหัวของ โอเมอร์ อัตซิลี ขึ้นโขกส่งบอลสู่ก้นตาข่ายผ่านมือ วอยเซียค เซสนี ก่อนที่ อัตซิลี คนเดิมจะสังหารประตู 2-0 ช่วงท้ายครึ่งแรกจาการหลุดไปตะบันด้วยซ้ายในกรอบเขตโทษ พาทีมเก็บชัยชนะเป็นนัดแรกในรอบแบ่งกลุ่ม แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลนี้