“มาดามเดียร์” ถกทางแก้ปัญหาพนันบอล สร้างรายได้เข้าประเทศ
โดย W.PINTHONG
น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรม กทม. พรรคประชาธิปัตย์ จัดเวที ฟัง-คิด-ทำ “พนันบอล” ควรหยุดหรือถูกกฎหมาย? โดยมี รศ.ดร.นวลน้อย ตรีรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดร.ณัฐกร วิทิตานนท์ อาจารย์สำนักวิชาการเมืองการปกครอง คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นายธนิศร์ พิริยะโภคานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โพรเมสซ์ จำกัด และ “เบลล์ ขอบสนาม” เข้าร่วม
โดย น.ส.วทันยา กล่าวว่า เรื่องของการพนันฟุตบอลเป็นเรื่องที่อยู่ในสังคมของทุกประเทศอยู่แล้ว แทนที่จะทำให้การพนันเป็นเรื่องใต้โต๊ะ ก็หยิบขึ้นมาไว้บนโต๊ะ เพื่อง่ายต่อการควบคุมดูแลได้ทั่วถึงมากยิ่งขึ้น อย่างเช่น ในประเทศอังกฤษ เรื่องของการพนันฟุตบอลเป็นเรื่องที่ถูกกฎหมาย โดยได้มีการออกกฎหมายเกี่ยวกับเรื่องของการพนันมาตั้งแต่ปี 1960 และหลังจากนั้นปี 2005 ก็ยังได้มีการปรับปรุงเพิ่มมาตรการควบคุมไม่ให้มีการโฆษณาไปถึงเยาวชน และจะต้องมีการให้ความรู้กับประชาชน ทั้งนี้ในส่วนของการพนันฟุตบอลซึ่งมีคนที่เข้าไปเกี่ยวข้องน้อยกว่าการพนันประเภทอื่น แต่มูลค่ากลับสูงที่สุด อย่างเช่น ในประเทศไทย ปี 2564 มีเม็ดเงินหมุนเวียนในวงการพนันฟุตบอล 180,000 ล้านบาท คิดเป็น 1.12% ของ GDP
ด้าน รศ.ดร.นวลน้อย กล่าวว่า การพนันถูกกฎหมายนั้นเป็นเรื่องที่ในบางประเทศได้ทำอยู่แล้ว แต่มีอีกหลายประเทศก็ไม่เห็นด้วย เพราะถือว่าการเล่นพนันเป็นสิ่งที่ไม่ใช่สินค้าและบริการปกติ เพราะการเล่นพนันก่อให้เกิดผลกระทบกับทั้งตัวผู้เล่น ครอบครัว และสังคม ดังนั้นหากประเทศไหนทำให้ถูกกฎหมายก็ต้องมีการกำหนดกรอบกติกาในการควบคุมไว้ค่อนข้างมาก ส่วนกรณีของประเทศอังกฤษนั้นสิ่งหนึ่งที่นอกจากมีการออกกฎหมายให้การพนันถูกกฎหมายแล้ว ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่มีการดำเนินการไปควบคู่กัน คือ การปฏิรูปตำรวจอย่างจริงจัง เพราะถือว่าเป็นเรื่องที่มีความเกี่ยวข้องกัน จึงต้องปฏิรูปเพื่อให้เกิดความเข้มแข็ง มีประสิทธิภาพ เพราะเมื่อมีการทำการพนันให้ถูกกฎหมายก็ต้องมีการปราบในส่วนที่ผิดกฎหมายด้วย เนื่องจากการตรากฎหมายเพียงอย่างเดียวไม่สามารถทำให้การพนันที่ผิดกฎหมายหมดไปได้
ส่วนประเทศไทยนั้นถ้าเราพร้อมขนาดนั้นก็ทำได้ แต่หากไม่มีการปฏิรูประบบผู้ที่เกี่ยวข้องกับการปราบปราม จะคาดหวังเพียงว่าออกกฎหมายอย่างเดียว เราก็จะเจอทั้งพนันที่ผิดกฎหมายและถูกกฎหมายอยู่แบบนี้ ส่วนที่ผิดกฎหมายจะไม่หายไป แล้วการกำกับต้องทำอย่างไรไม่ให้ส่งผลร้ายต่อสังคมมากเกินไป เพราะการพนันส่วนหนึ่งจะก่อให้เกิดปัญหาหนี้การพนัน และจะนำไปสู่การเกิดอาชญากรรม ความรุนแรง และปัญหาอื่น ๆ ตามมาอีกมาก รวมถึงจะมีการกำหนดมาตรการป้องกันเยาวชนเข้าถึงการพนันได้อย่างไร
“การทำให้ถูกกฎหมายโดยที่เราไม่แก้ปัญหาเดิมที่มีอยู่ เราก็จะเจอทั้งพนันที่ถูกกฎหมาย และผิดกฎหมายเกลื่อนไปหมด และพนันที่ถูกกฎหมายก็จะสู้พนันที่ผิดกฎหมายไม่ได้ เพราะพนันที่ถูกกฎหมายราจะเก็บเสียภาษี แต่พนันที่ผิดกฎหมายเขาจ่ายส่วยอย่างเดียวไม่ได้จ่ายภาษี” รศ.ดร.นวลน้อย กล่าว
ขณะที่ ดร.ณัฐกร มองว่า การพนันมีหลายระดับ และแต่ละประเทศมองการพนันแตกต่างกันไป แต่สำหรับเจตนาของประเทศที่มีการพนันถูกกฎหมาย ล้วนต้องการแหล่งรายได้ใหม่เข้าสู่รัฐ ดังนั้นประเทศเหล่านี้จึงสามารถจัดการการพนันผิดกฎหมายได้ เพื่อไม่ให้มาเป็นคู่แข่งกับรัฐ ส่วนประเทศไทยนั้นมองว่าสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือจะต้องมีการปรับปรุงกฎหมายการพนัน เพราะกฎหมายที่บังคับใช้อยู่มีความล้าสมัย ไม่มีการแก้ไข และต้องจัดเรียงการพนันตามความรุนแรง และใช้มาตรการให้สอดคล้องตามระดับความรุนแรง เช่น หากมองว่ากาสิโนหรือการพนันออนไลน์มีความรุนแรงสุด ก็ต้องมีมาตรการที่เข้มงวด ส่วนการพนันพื้นบ้านก็อาจจะเปิดให้มีช่องทางที่เปิดกว้างมากขึ้น
“เราใช้รัฐธรรมนูญมา 20 ฉบับ แต่กฎหมายการพนันหลังเปลี่ยนแปลงการปกครองเราใช้มา 2 ฉบับ มันเทียบกันไม่ได้เลย ผมคิดว่ากฎหมายพนันนี้มันล้าสมัยมาก ถึงเวลาที่ต้องสังคยานาได้แล้ว” ดร.ณัฐกร กล่าว
ดร.ณัฐกร กล่าวต่อว่า บางประเทศที่ที่มีการทำให้การพนันถูกกฎหมาย เพราะมองว่ารัฐจะสามารถคุ้มครองผู้เล่นได้ดีกว่าที่จะปล่อยให้ไปเล่นกับเว็ปไซต์เถื่อนที่อาจจะถูกโกงได้ หรือยังจะสามารถวางมาตรการกำกับ เช่น อายุผู้เล่น และผู้ให้บริการได้อีกด้วย แต่ทั้งนี้การที่จะทำให้การพนันชนิดใดถูกกฎหมายนั้นจะต้องออกกฎหมาย โดยการออกกฎหมายผ่านการออกประชามติของประชาชน เพื่อทำให้การดำเนินนโยบายมีความชอบธรรม แต่หากจะให้พรรคการเมืองทำเองตนมองว่าอาจจะมีความเสี่ยง
ด้าน นายธนิศร์ ได้ให้ข้อมูลเปรียบเทียบมูลค่าการพนันว่า การพนันฟุตบอลในประเทศไทยมีเม็ดเงินหมุนเวียนปีละ 180,000 ล้านบาท ขณะที่สลากกินแบ่งรัฐบาล มีเม็ดเงินหมุนเวียนเพียงปีละ 130,000 ล้านบาท และเมื่อรวมการพนันทั้งถูกและผิดกฎหมายในประเทศไทยมีเม็ดเงินหมุนเวียนปี 2564 อยู่ที่ 740,000 ล้านบาท และเมื่อนำมาเปรียบเทียบกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวช่วงปี 2563 ที่มีมูลค่า 800,000 ล้านบาท ซึ่งมีความใกล้เคียงกัน แต่การที่นักท่องเที่ยวเข้ามานั้นมีต้นทุนสูงเพราะการใช้ทรัพยากร แต่การพนันไม่มีการใช้ทรัพยากรอะไรและทำให้มีต้นทุนต่ำ และหากมองว่าเรื่องของการพนันเป็นธุรกิจโอกาสเสียงที่จะเจ้งมีต่ำมากหากไม่โดนโกง ดังนั้นไม่ว่าจะมองมุมไหนในเชิงตัวเลขถือว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจ
ส่วนการป้องกันควบคุมทุกวันนี้เทคโนโยลีก้าวหน้ามาก เราสามารถสร้างแพลตฟอร์มขึ้นมาเพื่อเฝ้าระวังในข้อมูลในออนไลน์ต่าง ๆ ว่ามีข้อมูลที่สุ่มเสี่ยงหรือไม่ โดยเป็นการทำงานในเชิงรุก รวมถึงยังอีกสิ่งที่น่าสนใจ คือ เทคโนโลยีบล็อกเชน ที่สามารถนำมาใช้ในการป้องกันการเข้าถึงของเยาวชน เช่น เมื่อมีเยาวชนเข้าถึงจะมีการส่งSMSไปขออนุญาตจากทางผู้ปกครอง ดังนั้นจะเห็นว่า
ด้าน “เบลล์ ขอบสนาม” ผู้คร่ำหวอดในวงการฟุตบอล กล่าวถึงการพนันฟุตบอลว่าก็เหมือนกับการเล่นหุ้น เมื่อจะลงทุนไปกับทีมใดสักทีมหากเราต้องการมันจริงๆก็ต้องไปศึกษา ว่าวันนี้ทีมนี้ตัวไหนลงสนาม แข่งกับใคร เหมือนจะไปซื้อหุ้นต้องไปศึกษาบริษัทนี้ใครเป็นเจ้าของ ทิศทางในเดือนที่ผ่านมาเป็นอย่างไร แต่สิ่งที่เราต้องมาคุยกันคือเราจะจัดการอย่างไรให้เยาวชนที่ไม่ต้องการให้เข้ามาสู่การพนันจะทำอย่างไร อาจจะต้องสร้างระบบที่เด็กไม่สามารถเข้าไปเล่นได้ อาจจะมีการเช็คเครดิตเหมือนการยื่นขอวีซ่า ถ้าวันนี้เราสร้างระเบียบว่าจะไม่มีการแทงลมเด็ดขาดจะไม่มีใครมาจับเสือมือเปล่า ก็มองว่าจะลดปัญหาการฆ่าตัวตาย หนี้การพนันแบบไม่คาดคิดได้ เพราะทุกคนจะเล่นโดยมีลิมิตของตัวเอง แต่ทั้งนี้ก็คงจะไม่ใช่สิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ในเร็ววัน อย่างเช่น กาสิโนที่สิงคโปร์ การที่คนสิงคโปร์จะเข้าไปเล่นจะต้องจ่ายค่าเข้า ในขณะที่คนต่างชาติเข้าฟรี นั่นหมายความว่าเขาไม่ต้องการให้คนชาติเขาเล่น แต่ต้องการเปิดพื้นที่ให้ชาวต่างชาติเข้ามาเสียเงินใช้จ่าย
น.ส.วทันยา กล่าวทิ้งท้ายว่า ถ้ามองในแง่ของตัวเลข รายได้หรือมูลค่าหมุนเวียนทางเศรษฐกิจต้องยอมรับว่าจับต้องได้ แต่จากการศึกษาพบว่าคนที่เล่นการพนันแล้วโอกาสที่จะออกจากการพนันได้ยากมาก ดังนั้นเราจะสร้างความสมดุลได้อย่างไร เพราะตัวเลขเศรษฐกิจก็ต้องการ หากจัดเก็บภาษีนำมาพัฒนาประเทศได้ก็จะเป็นสิ่งที่ดี ไม่เช่นนั้นก็จะกลายเป็นเงินที่หมุนเวียนแต่ประเทศไม่ได้อะไร แต่ในเรื่องของการดูแลประชาชนไม่ให้ติด ประกอบกับสถานการณ์ประเทศไทยขณะนี้ก็เป็นเช่นเดียวกับหลายประเทศที่ทำให้การพนันถูกกฎหมายคือต้องการหารายได้ใหม่เข้าประเทศ เพราะการจัดเก็บภาษีของไทยมีแนวโน้มว่าการจัดเก็บได้น้อยลง และคนก็ออกนอกระบบเพิ่มมากขึ้น และยังไม่นับถึงเรื่องของเทคโนโลยี แอพพิเคชัน ที่เข้ามามากมายล้วนแต่เป็นของต่างประเทศ แต่ธุรกิจแห่งอนาคตที่เป็นของคนไทยจริงๆที่จะหารายได้เข้าสู่ประเทศก็เหลือน้อยลงเต็มที นอกจากนี้ยังมีในเรื่องของกฎหมายการพนันไทยที่ยังล้าสมัยไม่ทันต่อรูปแบบการพนันที่มีการปรับเปลี่ยน