ย้อนดู 7 แข้งตัวหลักของ อาแจ็กซ์ ที่ย้ายออกหลังทะลุถึงรอบรอง แชมเปี้ยนส์ลีก 2018/19 - FEATURE
ในฤดูกาล 2018/19 อาแจ็กซ์ เป็นทีมที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับแฟนๆฟุตบอล ยุโรป เป็นอย่างมาก เมื่อพวกเขาหักทุกปากกาเซียนกรุยทางผ่าน เรอัล มาดริด และ ยูเวนตุส มาได้ใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก
น่าเสียดายที่อีกแค่อึดใจเดียว เอริค เทน ฮาก และลูกทีมก็จะได้ลิ่วไปชน ลิเวอร์พูล ในรอบชิงอยู่แล้วเชียว แต่ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน กับ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ เองก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน
หลังจบฤดูกาลดังกล่าว ทุกสายตาได้จับจ้องมาที่เหล่าสตาร์ของทีมในชุดนั้น พร้อมกับค่อยๆพรากแข้งตัวหลักของทีมยักษ์ใหญ่ในลีก ดัตช์ ไปทีละคนสองคน จนในปัจจุบันแทบจะไม่เหลือเค้าเดิมอยู่แล้ว
เรามาย้อนดูกันว่าแต่ละคนที่ย้ายออกไปเขาประสบความสำเร็จกันมากน้อยเพียงใด
1. เฟรงกี้ เดอ ยอง
ย้ายออกไปยัง บาร์เซโลนา ด้วยค่าตัว 75 ล้านยูโร ด้วยความหวังจะเข้ามาแทนที่ของ เซร์คิโอ บุสเก็ตต์ ที่กำลังอยู่ในวัยโรยรา
ทว่าไม่ม่ีใครคาดคิดว่ากองกลางชาว สเปน จะยังสามารถยืนเป็นกำลังหลักให้ทีมมาได้อย่างต่อเนื่องจนถึงทุกวันนี้ จนทำให้ เดอ ยอง จำต้องขยับไปเล่นในตำแหน่งที่สูงขึ้นมาอีกเล็กน้อย
ผลงานของเขาไม่ได้ขี้เหร่ แต่ก็ไม่ได้ดีเท่าที่ควรจะเป็น เพราะฉะนั้นมันจึงไม่น่าแปลกใจว่าเหตุใด ชาบี จึงพร้อมจะเสียเขาไปหากมันสามารถช่วยกอบกู้สถานการณ์ทางการเงินได้
2. มัธไธส์ เดอ ลิกต์
มีข่าวว่า บาร์เซโลนา ตั้งใจจะรวบแพ็คคู่ไปกับ เดอ ยอง แต่แล้วพวกเขาก็เปลี่ยนใจจนสุดท้ายก็เป็น ยูเวนตุส ที่จ่ายหนัก 75 ล้านยูโรเพื่อคว้าตัวเขามาเรียนรู้งานจาก โบรุชชี่ และ คิเอลลินี่
ในฤดูกาลที่ผ่านมาเขายึดตำแหน่งตัวจริงในทีมเอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น เคียงข้างกับสองแข้งวัยเก๋าที่หมุนเวียนกันมาลงสนาม
จริงอยู่ที่ เดอ ลิกต์ อาจจะไม่ได้เล่นผิดพลาดให้เห็นอยู่บ่อยๆ แต่เขาเองก็น่าจะทำได้ดีกว่านี้และป้องกันไม่ให้ ยูเวนตุส ถอยหลังลงคลองแบบที่เป็นในช่วงสองฤดูกาลที่ผ่านมา
3. แคสเปอร์ ดอลเบิร์ก
จากบทบาทตัวหลักในปี 2017 ที่ อาแจ็กซ์ ทะลุไปถึงรอบชิง ยูโรปา สู่การเป็นเพียงซูเปอร์ซับในฤดูกาลถัดมา
ดอลเบิร์ก ตัดสินใจย้ายออกจากทีมในหน้าร้อนเดียวกับสองคนก่อนหน้าไปยัง นีซ ในประเทศ ฝรั่งเศส แบบเงียบๆและทำผลงานในสนามได้น่าประทับใจทีเดียวในปีแรก
อย่างไรก็ดี ดูเหมือนเขาจะไม่ใช่คนน่าคบหานักในฐานะมิตรสหายนอกสนาม และนั่นก็ส่งผลโดยตรงต่อฟอร์มของเขาจนทำให้จำนวนประตูเริ่มหดหายไปในที่สุด
4. ลาสเซ โชน
ทำผลงานได้คงเส้นคงวาในบทบาทตัวขับเคลื่อนเกมเคียงข้างกับ เดอ ยอง ก่อนที่จะย้ายออกไปยัง เจนัว ด้วยค่าตัวเพียง 1.5 ล้านขณะอายุ 30 กว่าๆ
ฤดูกาลแรกของเขาก็ถือว่าพอใช้ได้ แต่กับผู้จัดการทีมคนใหม่อย่าง โรแลนโด มาราน โชน กลับโดนดองยาวและไม่ได้ถูกใส่ชื่อให้ลงเล่นในลีกจนเกือบขึ้นโรงขึ้นศาลกันเลยทีเดียว
เขาขอยกเลิกสัญญากับต้นสังกัดเมื่อต้นปีและได้ย้ายกลับมายังลีก ดัตช์ อีกครั้ง
5. ฮาคิม ซิเย็ค
หนึ่งในแข้งตัวรุกที่ได้รับเสียงชื่นชมอย่างล้มหลามทั้งจากผลงานในสนามที่ทางกราบขวาไปจนถึงการตัดสินใจอยู่ช่วยทีมจนจบฤดูกาลก่อนจะย้ายมายัง เชลซี ด้วยค่าตัว 40 ล้านยูโร
อาการบาดเจ็บและการเปลี่ยนกุนซือทำให้การออกสตาร์ทที่ดูปังปุริเย่ของชาว โมร็อกโก ต้องชะงักลง ท่ามกลางข่าวลือว่าเขาอาจจะต้องเก็บกระเป๋าย้ายออกจาก สแตมฟอร์ด บริดจ์ ในหน้าร้อนนี้
6. ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค
ย้ายมายัง พรีเมียร์ลีก กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในช่วงเวลาเดียวกับ ซิเย็ค ด้วยค่าตัวที่ใกล้เคียงกันแต่เผชิญชะตาที่แย่ยิ่งกว่าเมื่อเขาไม่สามารถเบียด บรูโน แฟร์นันดส์ และ ปอล ป็อกบา ได้จนจำต้องย้ายออกไป เอฟเวอร์ตัน แบบยืมตัว
ฟอร์มที่หลุดลุ่ยประกอบกับการไม่ได้รับโอกาสลงเล่นที่มากเท่าที่ควร ทำให้ เดอ เบ็ค หลุดทีมชาติไปโดยปริยาย แต่การเข้ามาของ เอริค เทน ฮาก กุนซือที่มีคู่มือน่าจะช่วยอะไรเขาได้บ้าง ไม่มากก็น้อยอย่างแน่นอน
7. โจเอล เวลท์แมน
ปราการหลังรายนี้ใช้เวลาส่วนใหญ่ในฤดูกาล 2018/19 ไปกับการฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บใหญ่ ก่อนจะกลับมาได้ทันเวลาพอดิบพอดีและช่วยทีมฝ่า ยูเวนตุส ไปได้
เขาอยู่ต่ออีกฤดูกาลและย้ายไปยัง ไบรท์ตัน ด้วยค่าตัวที่ย่อมเยาเพียงล้านยูโร แต่กลับตอบแทนได้อย่างคุ้มเดินคุ้มด้วยการเป็นตัวหลักในเกมรับของ เกรแฮม พอตเตอร์ ไปแล้ว