จัดอันดับมิดฟิลด์ที่ดีที่สุดตลอดกาล - RANKED

  • กองกลาง เป็นตำแหน่งที่มีการวิวัฒนาการมาจาก ฮาล์ฟแบ็ค
  • ซีเนดีน ซีดาน รั้งตำแหน่งผู้เล่นกองกลางที่ดีที่สุดตลอดกาล
  • ทีมชาติ ฝรั่งเศส เป็นชาติที่ผลิตมิดฟิลด์คุณภาพสูงออกมาได้ทุกยุคสมัย
France's midfielder Zinedine Zidane celebrates wit
France's midfielder Zinedine Zidane celebrates wit / PATRICK HERTZOG/GettyImages
facebooktwitterreddit

กีฬาฟุตบอลได้มีการวิวัฒนาการขึ้นมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน จากตำแหน่งสู่ตำแหน่ง จากแท็คติกสู่แท็คติก ซึ่งแต่ละยุคสมัยย่อมถูกปรับแต่งไปตามความนิยมและความเข้มข้นของช่วงเวลานั้น ๆ

หนึ่งตำแหน่งที่ถูกปรับแต่งมาจนเป็นที่นิยมในปัจจุบันก็คือตำแหน่ง "กองกลาง" ที่สมัยก่อนมีเพียงตำแหน่ง "ฮาล์ฟแบ็ค" ที่ทำหน้าที่คล้าย ๆ กัน แต่จะมุ่งเน้นไปที่การเอาบอลมาเพื่อส่งให้ผู้เล่นที่มีความสามารถมากกว่า


ปัจจุบัน มิดฟิลด์ กลายเป็นตำแหน่งที่อาจไม่ได้โดดเด่นที่สุดในแผงผู้เล่น 11 ตัวจริง แต่ก็เป็นตำแหน่งที่ขาดไปไม่ได้เด็ดขาดไม่ว่าจะเป็นทีมระดับล่าง กลาง หรือทีมใหญ่ รวมถึงยังถูกจำแนกซอยออกเป็นรูปแบบต่าง ๆ เช่น บ็อกซ์ ทู บ็อกซ์, เพลย์เมกเกอร์, ตัวตัดเกม และต่าง ๆ อีกมากมาย สะท้อนให้เห็นว่าโลกฟุตบอลพัฒนาไปไกลขนาดไหน

วันนี้ 90MIN จะพาทุกท่านไปชม 25 ผู้เล่นมิดฟิลด์ที่ดีที่สุดตลอดกาลว่ามีใครกันบ้าง โดยจะไม่นับรวมกับผู้เล่นกึ่งตัวรุกหมายเลข 10 อย่าง โยฮัน ครัฟฟ์ หรือ ดิเอโก มาราโดนา ที่กำกึ่งจะเป็นกองหน้ามากกว่


25. ฌอง ติกานา

Jean Tigana, Manfred Kaltz
France vs West Germany / Steve Powell/GettyImages

ติกานา เป็นคีย์แมนคนสำคัญให้แผงกองกลาง 4 คนของทีมชาติ ฝรั่งเศส ในโลกฟุตบอลยุค 80 โดยเฉพาะใน ยูโร 1984 ที่มิดฟิลด์รายนี้โชว์ฟอร์มออกมาได้โดดเด่น รู้จักวิ่งได้ไม่มีหมด ช่วยให้แผงมิดฟิลด์ทีม ตราไก่ ในตอนนั้นสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ

นอกจากนี้หลายคนยังยกให้เขาเป็นมิดฟิลด์แบบ 'บ็อกซ์ ทู บ็อกซ์' ที่ดีที่สุดในช่วงเวลานั้นอีกด้วย

24. กุนเทอร์ เน็ทเซอร์

Gunter Netzer
Netzer At Real Madrid / Keystone/GettyImages

ทีมชาติ เยอรมัน ไม่เคยขาดตำนานที่สลับกันขึ้นมาสร้างชื่อในแต่ละยุคสมัย แต่ชื่อของ กุนเทอร์ เน็ทเซอร์ กลับแทบไม่ค่อยมีคนพูดถึงในยุคนี้เทียบกับความยิ่งใหญ่ที่เจ้าตัวเคยสร้างไว้ให้กับทัพ อินทรีเหล็ก ในฟุตบอล ยูโร 1972

ตำนานผมยาวคนนี้ไม่ได้มีดีแค่หน้าตา แต่ เน็ทเซอร์ มีความโดดเด่นในเรื่องของการคุมเกมในตำแหน่งหมายเลข 10 ซึ่งเขาจะคอยสอดประสานกับเพื่อนร่วมทีมและกำหนดจังหวะการเล่นได้อย่างเหนือชั้น

23. แฟรงค์ แลมพาร์ด

Frank Lampard
Ian MacNicol Archive / Ian MacNicol/GettyImages

แลมพาร์ด อาจไม่ใช่มิดฟิลด์ที่มีสไตล์การเล่นสวยงามที่สุด แต่เขากลับทำสิ่งที่สำคัญที่สุดของเกมฟุตบอลได้ครั้งแล้วครั้งเล่าคือการ 'ยิงประตู' ซึ่งทำให้เจ้าตัวยังคงครองสถิติผู้เล่นมิดฟิลด์ที่ยิงเยอะที่สุดตลอดกาลของ พรีเมียร์ลีก จนถึงปัจจุบัน

ตลอดอาชีพการค้าแข้ง แลมพาร์ด ทำไปถึง 177 ประตูในลีกสูงสุด พร้อมกับการคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก 3 สมัย และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก อีก 1 สมัยกับ เชลซี

22. ปาทริก วิเอร่า

Patrick Vieira
Liverpool v Arsenal / Alex Livesey/GettyImages

หากจะพูดถึงมิดฟิลด์ที่มีความ "ครบเครื่อง" อย่างแท้จริง แทบไม่มีใครเหมาะสมไปกว่า ปาทริก วิเอร่า ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของทีมแชมป์ "ไร้พ่าย" ของ อาร์แซน เวนเกอร์ ที่อาร์เซน่อล

ความโดดเด่นของ วิเอร่า คือเขาเป็นกองกลางตัวสูงใหญ่ที่เล่นได้ดีหมดทั้งเกมรุกและรับ นาทีหนึ่งเราอาจจะได้เห็นเขาวิ่งไล่ตัดบอลจนถึงแดนหลัง ตัดกลับมาอีกทีเขาอาจจะมีรายชื่ออยู่บนสกอร์บอร์ดแล้วก็ได้

21. เอ็นโกโล่ ก็องเต้

N'Golo Kante
Austria v France: Group D - UEFA EURO 2024 / Marvin Ibo Guengoer - GES Sportfoto/GettyImages

ในช่วงเวลาที่พีคที่สุด เอ็นโกโล่ ก็องเต้ นับเป็นสูตรโกงตรงกลางสนามที่ เชลซี และทีมชาติ ฝรั่งเศส มีเลยทีเดียว เพราะ ก็องเต้ สามารถวิ่งไล่ทำลายเกมคู่แข่งได้แบบไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย แถมยังช่วยเติมขึ้นไปเล่นเกมรุกได้ดีอีกด้วย

แม้อาการบาดเจ็บในช่วงปีหลังจะทำให้ ก็องเต้ ใช้เวลาส่วนใหญ่พักฟื้นร่างกาย แต่ทุกครั้งที่เขาได้ลงสนามก็ต้องบอกว่าสามารถยกระดับแผงกองกลางให้ดูดีขึ้นทันตาเห็นได้เลยทีเดียว

20. สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด

Steven Gerrard
Liverpool v Everton - Premier League / Laurence Griffiths/GettyImages

ตำนานตลอดกาลของทีม หงส์แดง ซึ่งไม่ได้มีดีแค่ฝีเท้า แต่ยังเป็นคนที่สะท้อนความเป็น 'ลิเวอร์พูล' ออกมาได้อย่างแท้จริง เพราะนี่คือนักเตะที่ไม่เคยยอมแพ้ต่ออุปสรรคใด ๆ และยังเป็นลูกหม้อของทีมที่เติบโตมาเป็นพี่ใหญ่ช่วยปลุกระดมกำลังใจให้น้อง ๆ ในทีม

สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด นับเป็นผู้เล่นที่มีความ 'บู๊' และ 'บุ๋น' ในเวลาเดียวกัน โดยจุดเด่นของเขาคือการส่งบอลคีย์พาสได้อย่างแม่นยำ หรือจะให้เล่นหนักเพื่อทำลายเกมคู่ต่อสู้ก็ทำได้ อีกทั้งยังมีความสามารถในการส่องไกลที่อันตรายมาก ๆ ด้วย

19. อันเดรีย ปีร์โล่

Andrea Pirlo
Juventus FC v Atalanta BC - Serie A / Valerio Pennicino/GettyImages

จากผู้เล่นตำแหน่ง 'กองหน้า 3/4" กลายมาเป็น 'เรจิสต้า' ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร โดยเฉพาะเมื่อ ปีร์โล่ ได้จับคู่กับจอมบู๊ล้างผลาญอย่าง เจนนาโร่ กัตตูโซ่ ที่ มิลาน และ อิตาลี ทำให้ทุกที่ที่สองคนนี้ลงสนามพร้อมกัน ก็ย่อมมีโทรฟี่ใหญ่ไหลมาเทมาไม่หยุด

ในปี 2011 เอซี มิลาน ทำพลาดตัดสินใจขาย ปีร์โล่ ให้ ยูเวนตุส เพราะคิดว่าแก่เกินไปแล้ว กลายเป็นว่า ปีร์โล่ ปรับสไตล์การเล่นกลายเป็น 'เพลย์เมกเกอร์' และสามารถบัญชาเกมได้อย่างชาญฉลาดจนทีม ม้าลาย คว้าแชมป์ลีกติดกัน 3 สมัยซ้อน

18. เซร์คิโอ บุสเก็ตส์

Sergio Busquets
FC Barcelona v CA Osasuna - LaLiga Santander / Eric Alonso/GettyImages

"ถ้าคุณดูเกมการแข่งขันคุณจะไม่เห็น บุสเก็ตส์ แต่ถ้าคุณดู บุสเก็ตส์ คุณจะเห็นทั้งสนาม"

คำพูดของอดีตนายเก่าอย่าง บิเซนเต้ เดล บอสเก้ ไม่เกินจริงแต่อย่างใด เพราะสไตล์การเล่นของมิดฟิลด์ กระทิงดุ รายนี้ถือเป็นต้นแบบของ 'ผู้ปิดทองหลังพระ' อย่างแท้จริง

บุสเกตส์ ไม่ใช่มิดฟิลด์ที่มีความโดดเด่นในเรื่องของการทำประตู, เลี้ยงบอล, หรือ ความเร็ว แต่ความแข็งแกร่งของเขาอยู่ที่ 'ความเข้าใจฟุตบอล' อย่างถ่องแท้ จึงทำให้เจ้าตัวคุมแผงกองกลางได้อยู่หมัดโดยที่ไม่ต้องขยับร่างกายเยอะให้เปลืองพลังงาน

17. แฟรงค์ ไรจ์การ์ด

Frank Rijkaard
AS Photo Archive / Alessandro Sabattini/GettyImages

ในยุคที่ เอซี มิลาน รุ่งเรืองถึงขีดสุด หนึ่งในนักเตะคนสำคัญของทัพ ปีศาจแดงดำ ในยุคนั้นก็คือ แฟรงค์ ไรจ์การ์ด ผู้เปรียบเสมือนหัวจิตหัวใจให้แดนกลางของทีม

ด้วยความสามารถในการเล่นเป็นตัว 'โฮลดิ้ง' ได้อย่างเฉียบขาด ร่วมกับการมีพละกำลังและรูปร่างใหญ่ไม่เป็นสองรองใคร จึงทำให้ ไรจ์การ์ด สามารถนำพาความสำเร็จมากมายเข้าสู่ทุกสโมสรที่เขาย้ายไปค้าแข้งด้วย

16. ริคาร์โด้ กาก้า

TOPSHOT-FBL-FRA-EUR-AWARD-KAKA
TOPSHOT-FBL-FRA-EUR-AWARD-KAKA / PIERRE VERDY/GettyImages

ในช่วงที่พีคถึงขั้นสูงสุด ใครก็เอาดาวเตะชาว บราซิลเลี่ยน คนนี้ไม่อยู่ โดย กาก้า สมัยอยู่กับ เอซี มิลาน นับเป็นเพชรเม็ดงามของวงการลูกหนังขนานแท้ เพราะนอกจากเจ้าตัวจะเล่นฟุตบอลได้อย่างสง่างาม เขายังนำพาความอันตรายมาสู่กองหลังฝั่งตรงข้ามได้ทุกครั้งที่สัมผัสบอลด้วยความเร็วและทักษะการเลี้ยงบอลแบบฉบับหาตัวจับยาก โดยเฉพาะแฟน แมนยู ที่น่าจะรู้จักเขาเป็นอย่างดีในชื่อ 'ผีกาก้า'

จุดสูงสุดของอาชีพคงหนีไม่พ้นปี 2007 ที่ กาก้า ผงาดขึ้นไปคว้ารางวัล บัลลงดอร์ ได้สำเร็จ

15. โยฮัน เนสเคนส์

 - Barcelona
- Barcelona / VI-Images/GettyImages

น้อยคนที่จะรู้ว่าเบื้องหลังความสำเร็จของของตำนานลูกหนังอย่าง โยฮัน ครัฟฟ์ จะมีชายคนหนึ่งชื่อ โยฮัน เนสเคนส์ คอยเป็นลูกคู่กำลังหนุนลงเล่นคู่กันมาโดยตลอด ซึ่งทั้งคู่ค้าแข้งอยู่ด้วยกันที่ อาแจ็กซ์ 3 ปี ก่อนจะพากันย้ายมาระเบิดฟอร์มที่ บาร์เซโลน่า อีก 4 ปี

เนสเคนส์ เริ่มต้นจากการเล่นในตำแหน่งแบ็คขวา แต่ความสามารถทางด้านฟุตบอลทำให้โค้ชมองเห็นว่าเขามีดีมากกว่านั้นจึงจับเขามาเล่นในตำแหน่งกองกลาง ซึ่งทำให้ความเป็น 'โททัล ฟุตบอล' ที่มี ครัฟฟ์ อยู่ข้างหน้า และ เนสเคนส์ คอยเสริมอยู่ข้างหลังมีความสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ

14. เควิน เดอ บรอยน์

Kevin De Bruyne
Manchester City v West Ham United - Premier League / Michael Regan/GettyImages

หากจะพูดถึงมิดฟิลด์ตัวทำเกมที่ดีที่สุดในยุคนี้ ชื่อของ เควิน เดอ บรอยน์ คงต้องขึ้นไปติดเป็นอันดับแรกอย่างแน่นอน

โดยตั้งแต่เจ้าตัวย้ายกลับมาค้าแข้งใน พรีเมียร์ลีก กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เดอ บรอยน์ ยกระดับการเล่นของตนเองขึ้นมาได้ทุกซีซันจนเจ้าตัวกลายเป็นจอมทัพเบอร์ 1 ที่พร้อมจะแทงบอลทะลุทะลวงแนวรับคู่ต่อสู้ไม่ว่าหน้าไหน

สถิติที่น่าสนใจคือมีเพียง ไรอัน กิ๊กส์ คนเดียวเท่านั้นที่สามารถทำแอสซิสต์ได้มากกว่า เดอ บรอยน์ ในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก

13. ไมเคิล เลาดรู๊ป

Michael Laudrup
Michael Laudrup / Shaun Botterill/GettyImages

ไมเคิล เลาดรู๊ป ถือเป็นนักเตะมหัศจรรย์มาตั้งแต่สมัยเริ่มค้าแข้งแรก ๆ โดยเจ้าตัวได้รับรางวัล นักเตะ เดนมาร์ก ยอดเยี่ยมประจำปี 1982 ก่อนจะย้ายออกจากบ้านเกิดไปค้าแข้งกับ ยูเวนตุส ในปีถัดมา

แม้ช่วงเวลากับทีม ม้าลาย ของ เลาดรู๊ป จะไม่น่าจดจำสักเท่าไร แต่ดาวเตะจาก แดน โคนม กลับมาระเบิดฟอร์มแข้งได้อีกครั้งภายใต้การทำทีมของ โยฮัน ครัฟฟ์ ที่ บาร์เซโลน่า ซึ่งเป็นที่ที่เขากลายเป็นเสาหลักพาทีมคว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้ 4 สมัยซ้อน ร่วมด้วย ยูโรเปี้ยน คัพ อีก 1 สมัย

12. โทนี่ โครส

Toni Kroos
Germany v Argentina: 2014 FIFA World Cup Brazil Final / Martin Rose/GettyImages

โครส ถือเป็นมิดฟิลด์ตัวคุมจังหวะเกมที่มีความฉลาดในการเลือกเล่นมาก ๆ ในโลกฟุตบอลยุคใหม่ โดยเจ้าตัวมีความสามารถในการวางบอลยาวได้อย่างเฉียบคม และยังสามารถครองบอลในสถานการณ์กดดันได้ดีมาก ๆ จนเขากลายเป็นตัวหลักพาให้ เรอัล มาดริด อยู่บนจุดสูงสุดมานานหลายปี

น่าเสียดายที่แม้อายุร่างกายของ โครส จะยังพอเล่นฟุตบอลต่อไปได้อีกหลายปี แต่จากความสำเร็จทั้งหมดที่เจ้าตัวเคยคว้ามา โครส จึงประกาศเลิกเล่นไปในช่วงปิดฤดูกาลที่แล้ว

11. ชาบี เอร์นานเดซ

Xavi Hernandez
FC Barcelona v Sevilla FC - La Liga / David Ramos/GettyImages

แม้จะยุติบทบาทผู้จัดการทีม บาร์เซโลน่า ได้แบบไม่สวยหรูสักเท่าไร แต่เราทุกคนต้องยอมรับว่าช่วงเวลาที่ ชาบี เอร์นานเดซ ค้าแข้งอยู่ใน สเปน คือช่วงเวลาที่เปรียบดั่งยุคทองของทีม เจ้าบุญทุ่ม เลยทีเดียว

ชาบี ทะลุขึ้นมาเล่นให้ทีมชุดใหญ่ของ บาร์เซโลน่า เนื่องจากสถานการณ์ทางการเงินที่ไม่สู้ดีของสโมสร แต่กลับกลายมาเป็นหัวใจหลักให้แดนกลางจนยึดตัวจริงของทีมได้เกือบ 2 ทศวรรษ โดยเฉพาะหลังการเข้ามาทำทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่ช่วยยกดับให้เขากลายเป็นมิดฟิลด์ที่สมบูรณ์แบบขึ้นไปอีกขั้น

10. โซคราเตส

Socrates
Socrates / Trevor Jones/GettyImages

นักเตะเจ้าของฉายา 'หมอยา' ที่ไม่ได้ฉลาดแค่เรื่องในตำราเท่านั้น แต่เขายังมีความอัจฉริยะในการลงไปวาดลวดลายบนสนามจนกลายเป็นที่จดจำว่านี่คือหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดของทีมชาติ บราซิล ในยุค 80 เลยก็ว่าได้

โซคราเตส อาจไม่ใช่นักเตะที่มีถ้วยรางวัลมากมายเอาไว้ดูชมที่บ้าน แต่สิ่งที่น่าจดจำคือฟอร์มการเล่นในสนามที่เจ้าตัวรู้จักฉลาดในการเลือกเล่น หาช่องดี และสามารถเล่นเป็นทีมได้อย่างน่าเหลือเชื่อ

การเป็น 'ราชันไร้มงกุฎ' แต่ผู้คนยังคงจดจำมาถึงปัจจุบันก็น่าจะเป็นตัวการันตีแล้วว่าครั้งหนึ่ง โซคราเตส เคยสุดยอดขนาดไหน

9. หลุยส์ ซัวเรซ

Luis Suarez
Footballer Luis Suarez / Evening Standard/GettyImages

เชื่อว่าเกิน 90% เมื่อพูดถึงนักเตะชื่อ หลุยส์ ซัวเรซ ทุกคนก็จะนึกถึงอดีตกองหน้าของ ลิเวอร์พูล แต่รู้หรือไม่ว่าครั้งหนึ่งโลกฟุตบอลเคยมีนักเตะในชื่อเดียวกันขึ้นมาเขย่าวงการจนขึ้นไปได้ถึงผู้ชนะรางวัล บัลลงดอร์ เลยทีเดียว

ซัวเรซ เป็นมิดฟิลด์ตัวทำเกมชาว สเปน ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ อินเตอร์ มิลาน และ บาร์เซโลน่า มาตลอดระยะเวลารวมกันกว่า 15 ปี โดยที่ครั้งหนึ่งตำนานอย่าง อัลเฟรโดดิ สเตฟาโน่ เคยมอบฉายาให้นักเตะผู้นี้ว่า 'นักสถาปัตยกรรม' เพื่อเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงคุณภาพในการสร้างสรรค์เกมระดับปรมาจารย์

จุดสูงสุงของ ซัวเรซ คือการคว้ารางวัล บัลลงดอร์ ในปี 1960 ก่อนจะพาทีมชาติ สเปน คว้าแชมป์ ยูโร ได้ในปี 1964

8. อันเดรส อิเนียสต้า

Andres Iniesta
FC Barcelona v CA Osasuna - La Liga / Getty Images/GettyImages

ในขณะที่ เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ คือผู้ปิดทองหลังพระในตำแหน่งกองกลางตัวรับ, ชาบี คือคนสร้างสรรค์เกมและยิงประตูสำคัญ, อันเดรส อิเนียสต้า ก็คือคนที่ทำให้แฟนบอล บาร์เซโลน่า นั่งไม่ติดเก้าอี้ทุกครั้งด้วยลีลาการครองบอลอันพริ้วไหวและสวยงามซึ่งนำพาความสำเร็จมากมายมาสู่ทีม

ความโดดเด่นของ อิเนียสต้า คือแม้เขาจะเม็ดมิดฟิลด์ร่างเล็กก็จริง แต่เจ้าตัวกลับครองบอลได้เหนียวแน่นเอามาก ๆ และยังสามารถเลี้ยงแหวกแนวรับคู่แข่งได้เหมือนเป็นกรวยเอาไว้ซ้อม

อิเนียสต้า ยังเป็นคนทำประตูแห่งความทรงจำในประวัติศาสตร์ลูกหนัง สเปน ช่วยพาทีมคว้า แชมป์โลก ในปี 2010 ได้อีกด้วย

7. ลูก้า โมดริช

Luka Modric
Real Madrid C.F. v Borussia Dortmund - UEFA Champions League 2024/25 League Phase MD3 / Mateo Villalba/GettyImages

หลังย้ายมาค้าแข้งใน สเปน เมื่อปี 2013 ครั้งหนึ่ง ลูก้า โมดริช เคยถูกวิจารณ์ว่าเป็นการเซ็นสัญญาที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ เรอัล มาดริด แต่ดาวเตะชาว โครเอเชียน ก็ใช้เวลาไม่นานเพื่อพิสูจน์ตนเองจนกลายมาเป็นมิดฟิลด์แถวหน้าของวงการได้สำเร็จ

ด้วยความขยันและความสามารถในการออกบอลได้อย่างเฉียบขาด ทำให้ โมดริช กลายเป็นเพชรเม็ดงามในแดนกลางของ เรอัล มาดริด พร้อมพาทีมคว้าแชมป์ ลาลีก้า และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้สมัยแล้วสมัยเล่า จนรู้ตัวอีกที โมดริช กลายเป็นนักเตะที่ทีม ราชันชุดขาว ขาดไปไม่ได้แล้ว

โมดริช ยังเป็นนักเตะคนแรกที่สามารถแซงหน้า ลีโอเนล เมสซี่ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ขึ้นไปคว้ารางวัล บัลลงดอร์ ได้สำเร็จเมื่อปี 2018 อีกด้วย

6. รุด กุลลิท

Ruud Gullit, Gerald Vanenburg
1988 European Championships Final Holland v USSR / Getty Images/GettyImages

ไม่เพียงแต่เป็นนักเตะที่ครบเครื่องทุกเรื่องในแดนกลางเท่านั้น แต่ รุด กุลลิท ยังเป็นนักเตะที่สามารถเล่นได้ทุกตำแหน่งตั้งแต่ กองหลัง ยัน กองหน้า บ่งบอกความสามารถรอบด้านและความเข้าใจเกมฟุตบอลของเจ้าตัวได้เป็นอย่างดี ถึงอย่างนั้น มิดฟิลด์ ก็คือตำแหน่งที่ กุลลิท เล่นออกมาแล้วดูสมบูรณ์แบบมากที่สุด

กุลลิท คว้าแชมป์ลีกได้ทั้งกับ เฟเยนูร์ด และ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ก่อนจะย้ายมา เอซี มิลาน ซึ่งเป็นที่ที่เขาได้ลงเล่นกับสุดยอดนักเตะมากมายและพาทีม ปีศาจแดงดำ ครองความสำเร็จทั้งในระดับประเทศและทวีป โดยที่เจ้าตัวสามารถคว้า บัลลงดอร์ ไปได้ในปี 1987 อีกด้วย

5. ซิโก้

Zico
Zico / Getty Images/GettyImages

หากจะยกตัวอย่างนักฟุตบอลสักคนที่มีความเป็น 'แซมบ้า' โดยขนานแท้ ซิโก้ คือหนึ่งในนั้นอย่างแน่นอน เพราะนอกจากจะสามารถเล่นได้ทั้งสองเท้าอย่างชำนาญ นักเตะเจ้าของฉายา 'เปเล่ขาว' คนนี้ยังมักสร้างความประหลาดใจให้แฟนบอลได้เห็นอยู่บ่อยครั้งอีกด้วย

ทั้งการจ่ายบอลแบบไม่มอง, การเลี้ยงบอลหลบคู่แข่งด้วยท่วงท่าอันสวยงาม, หรือจะเป็นการยิงฟริคิกที่แม่นยำเหมือนจับวาง สิ่งเหล่านี้เป็นตัวการันตีว่าแฟนบอลทุกคนที่ซื้อตั๋วเข้ามาชม ซิโก้ ในสนามจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน

4. เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน

England v Malta: Group C - UEFA EURO 2024 European Qualifiers
England v Malta: Group C - UEFA EURO 2024 European Qualifiers / Alex Pantling/GettyImages

ตลอดระยะเวลาตั้งแต่เพลิงแข้งลูกหนังเริ่มต้นการแข่งขันขึ้น ทีมชาติ อังกฤษ ต่างผลิตสตาร์ดังยอดฝีเท้าขึ้นมาได้ทุกยุคทุกสมัย แต่คงไม่มีนักเตะคนไหนเหมาะสมกับคำว่า 'นักเตะอังกฤษที่ดีที่สุด' ไปมากกว่า เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน อีกแล้ว

ในระดับสโมสร เซอร์ บ็อบบี้ ลงเล่นให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปร่วม 758 เกม นำพาความสำเร็จทั้งในและนอกประเทศมากมายมาให้ทีม ปีศาจแดง พร้อมคว้ารางวัล บัลลงดอร์ ให้ตนเองได้ 1 สมัยในปี 1966

ส่วนในระดับทีมชาติ เจ้าตัวมีส่วนร่วมสำคัญในทีม สิงโตคำราม ชุดคว้าแชมป์ ฟุตบอลโลก ครั้งแรกและครั้งเดียวในประวัติศาสตร์ โดยเป็นคนเหมา 2 ประตูในรอบรองชนะเลิศส่งให้ทีมชาติ อังกฤษ เข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ

3. โลธาร์ มัทเธอุส

Lothar Matthaus
Lothar Matthaus Germany 1988 / Getty Images/GettyImages

ว่ากันว่า โลธาร์ มัทเธอุส คือมิดฟิลด์ที่เก่งที่สุดในประวัติศาสตร์ทีมชาติ เยอรมัน เลยทีเดียว เพราะเขาคือนักเตะเพียงไม่กี่คนบนโลกที่สามารถคว้า แชมป์โลก และ บัลลงดอร์ ได้ในปีเดียว ซึ่ง มัทเธอุส ทำได้เมื่อปี 1990

ส่วนกับฟุตบอลสโมสร มัทเธอุส พิชิตทุกถ้วยในประเทศบ้านเกิดกับ บาเยิร์น มิวนิค ก่อนจะย้ายออกไปกวาดรางวัลกับ อินเตอร์ มิลาน ในเวลาต่อมา ซึ่งความสามารถในการเล่นเกมรับประกบคู่แข่งได้อย่างสมบูรณ์แบบ ประกอบกับพละกำลังในการพาบอลพุ่งไปข้างหน้า ทำให้ มัทเธอุส เป็นมิดฟิลด์ที่อันตรายที่สุดในยุคนั้นเลยทีเดียว

2. มิเชล พลาตินี่

Michel Platini
AS Photo Archive / Alessandro Sabattini/GettyImages

ไม่เพียงแต่เป็นนักเตะที่ดีที่สุดตลอดกาลของ ยูเวนตุส แต่ มิเชล พลาตินี่ เป็นหนึ่งนักเตะที่ทำให้ฟุตบอล อิตาลี และ ฝรั่งเศส มีความยิ่งใหญ่เกรียงไกรมาก ๆ ในช่วงยุค 80 เลยก็ว่าได้

ดาวเตะชาว เฟรนช์แมน เป็นกุญแจสำคัญช่วยให้ทีมชาติ ฝรั่งเศส คว้าแชมป์ ยูโร 84 ได้อย่างไร้เทียมทาน แถมเจ้าตัวยังเป็นคนที่ซัดไปถึง 9 ลูกในทัวร์นาเม้นต์ครั้งนั้นอีกด้วย

ด้วยความยิ่งใหญ่เกรียงไกรของ พลาตินี่ ส่งให้เขาคว้า บัลลงดอร์ ได้มากถึง 2 สมัยคือในปี 1983 และ 1985 บ่งชี้ความสุดของของดาวเตะรายนี้ได้เป็นอย่างดี

1. ซีเนดีน ซีดาน

Zinedine Zidane
France v Italy - FIFA World Cup Final 2006 / Simon M Bruty/GettyImages

จะมีนักเตะเพียงกี่คนบนโลกที่สามารถจับพรสวรรค์มาชนกับความฉลาดได้ลงตัวสุด ๆ แบบที่ ซีเนดีน ซีดาน ทำได้จนถึงขั้นที่ คาร์โล อันเชล็อตติ เคยออกมายอมรับว่าตนเองสร้างทีมโดยให้ทุกอย่างหมุนรอบ ซีดาน เลยทีเดียว

แน่นอนว่าแชมป์ ฟุตบอลโลก และรางวัล บัลลงดอร์ ก็เป็นตัวการันตีชั้นดีแล้วว่าครั้งหนึ่ง ซีดาน เคยสุดยอดขนาดไหนในฐานะนักเตะ แต่หลังจากเจ้าตัวผันอาชีพมาเป็นโค้ชก็ต้องบอกว่าทำได้อย่างสมบูรณ์แบบไร้ที่ติเช่นเดียวกัน


อ่านบทความเกี่ยวกับ ซีรี่ย์ Best of all time เพิ่มเติมได้ที่นี่

feed