จัดอันดับปีกขวาที่ดีที่สุดตลอดกาล - RANKED
- ปีกขวา เป็นตำแหน่งที่ต้องใช้ความเร็วและสเต็ปเท้าเอาไว้เล่นงานคู่ต่อสู้
- บราซิล ขึ้นชื่อเรื่องการผลิตผู้เล่นในตำแหน่งปีกขวาออกมาสู่โลกฟุตบอลทุกยุค
- การ์รินช่า ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักเตะที่เลี้ยงบอลเก่งที่สุดในประวัติศาสตร์
ในโลกฟุตบอลตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เราได้เห็นผู้เล่นปีกขวาหลากหลายรูปแบบก้าวขึ้นมาโลดแล่นบนผืนหญ้าให้เราทุกคนได้มีความตื่นตาตื่นใจกัน ไม่ว่าจะเป็นสายความเร็วใช้สปีดกระชากหนีคู่แข่ง หรือ สายเทคนิคจอมพริ้วที่ใช้สเต็ปเท้าหลอกล่อให้คู่ต่อสู้ไปผิดทาง ทั้งคู่ต่างมีความพิเศษและความสำคัญแตกต่างกันไปในแต่ในวาระโอกาส
วันนี้ 90MIN อยากพาทุกท่านไปชม 25 ผู้เล่นตำแหน่งปีกขวาที่ดีที่สุดตลอดกาลว่าจะมีใครกันบ้าง และคุณผู้อ่านทุกท่านคุ้นเคยพวกเขามากน้อยแค่ไหนในความทรงจำ
25. ฆอร์เซ่ ออกัสโต
ฆอร์เซ่ ออกัสโต อาจไม่ได้เป็นนักเตะที่โด่งดังมากมายนอกประเทศ โปรตุเกส ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก เพราะอดีตดาวเตะ เบนฟิก้า ผู้นี้นับเป็นปีกขวาที่เก่งเอามาก ๆ ในช่วงยุค 50 ถึง 60 โดยรวมแล้วตลอดอาชีพการค้าแข้ง ออกัสโต ยิงไปเกินกว่า 100 ประตูเลยทีเดียว
ออกัสโต ยังเป็นกำลังสำคัญร่วมกับ ยูเซบิโอ พาทีมคว้าแชมป์ลีกสูงสุด 8 สมัย และ ยูโรเปี้ยน คัพ อีก 2 สมัย แม้สุดท้ายจะเป็น 'เสือดำแห่งโมซัมบิก' ที่ได้รับเครดิตไปมากกว่าก็ตาม
24. ไรมันโด ออร์ซี
ไรมันโด ออร์ซี เป็นนักเตะฝีเท้าเยี่ยมที่ได้ลงเล่นให้สองทีมชาติยักษ์ใหญ่ทั้ง อาร์เจนติน่า และ อิตาลี แล้วยังสามารถช่วยให้ทีม 'อัซซูรี' คว้าแชมป์ ฟุตบอลโลก เมื่อปี 1934 ได้อีกด้วย
จุดเด่นของ ออร์ซี คือเท้าซ้ายที่สามารถจบสกอร์ได้เฉียบคมแบบสุดๆ จนไม่ว่าจะถูกจับเล่นตรงไหนของสนาม เขาก็พร้อมจะมีรายชื่ออยู่บนสกอร์บอร์ดทุกครั้ง รวมถึง ออร์ซี ยังมีสเต็ปเท้าที่เร็วมากไว้ใช้เล่นงานคู่ต่อสู้เป็นอีกหนึ่งจุดแข็งของเขา
23. จอห์นนี่ เรป
แม้จะไม่สามารถคว้าสักโทรฟี่ได้ตลอดระยะเวลาที่ลงรับใช้ทีมชาติ เนเธอร์แลนด์ แต่ จอห์นนี่ เรป คือดาวเตะคนสำคัญในยุค 'โททัล ฟุตบอล' ของ โยฮัน ครัฟฟ์ และ ร็อบ เรนเซ่นบริงค์
จอห์นนี่ เรป ยังเป็นกำลังสำคัญช่วยให้ อาแจ็กซ์ คว้าแชมป์ ยูโรเปี้ยน คัพ เมื่อปี 1973 โดยที่เจ้าตัวเป็นคนยิงประตูได้ในนัดชิงชนะเลิศอีกด้วย
22. บิลลี เมเรดิท
เรื่องราวของ บิลลี่ เมเรดิท อาจฟังดูแล้วแปลกสักเล็กน้อย เพราะนี่คือนักเตะเพียงคนเดียวในประวัติศาสตร์ที่สามารถใช้คำว่าตำนานสโมสรได้กับทั้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้
เมเรดิท ลงเล่นให้สองสโมสรจาก แมนเชสเตอร์ ไปทั้งหมดมากกว่า 300 นัด นำพาความสำเร็จมากมายมาสู่ตู้โชว์ของทั้งสองทีม โดยที่เจ้าตัวไม่ได้เกิดและโตในเมืองดังกล่าวด้วยซ้ำ
21. ริยาด มาห์เรซ
คงไม่มีใครคาดคิดว่าดาวเตะมูลค่า 450,000 ปอนด์ที่ เลสเตอร์ ซิตี้ กระชากมาร่วมทัพในอดีตจะสามารถพาทีม 'จิ้งจอกสยาม' คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ได้แบบบรรลือโลก
ต่อจากนั้น มาห์เรซ ย้ายไปร่วมทัพ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แล้วยิ่งยกระดับการเล่นของตนเองขึ้นมาได้อย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นปีกขวาที่อันตรายที่สุดในช่วงเวลาหนึ่ง
ด้วยเท้าซ้ายที่สามารถยิงและจ่ายได้อย่างเฉียบคม มาห์เรซ พาทีม เรือใบสีฟ้า คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก 4 สมัย, เอฟเอ คัพ 2 สมัย, และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 1 สมัย
20. บรูโน คอนตี
ก่อนจะมีตำนานสโมสรอย่าง ฟรานเชสโก้ ต็อดติ และ ดานิเอเล เด รอสซี โรม่า เคยมี บรูโน คอนตี เป็นนักเตะคนสำคัญมานานหลายปี โดย คอนตี มีจุดเด่นในเรื่องของความเร็วและความพริ้ว รวมถึงยังมีความเป็นตัวรุกอเนกประสงค์ที่เก่งรอบด้านด้วย
คอนตี มีส่วนสำคัญในการยิงประตูช่วยให้ทีมชาติ อิตาลี ผ่านเข้าไปเล่นรอบตัดเชือกใน ฟุตบอลโลก 1982 ก่อนที่สุดท้ายพวกเขาจะจบทัวร์นาเม้นต์ด้วยตำแหน่งแชมป์
19. อมันซิโอ อมาโร
เจ้าของฉายา เอล บรูโจ หรือที่แปลเป็นไทยว่า 'พ่อมด' น่าจะเป็นคำนิยามที่บ่งบอกสไตล์การเล่นอันพริ้วไหวของ อมันซิโอ อมาโร ได้เป็นอย่างดี เพราะนี่คือปีกจอมถล่มประตูที่พา เรอัล มาดริด คว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้มากถึง 9 สมัย
อมาโร ยังเป็นกำลังสำคัญให้ทีมชาติ สเปน คว้าแชมป์ฟุตบอล ยูโร ได้ในปี 1964 และยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล บัลลงดอร์ เป็นลำดับที่ 3 ในปีเดียวกันอีกด้วย
18. โรแบร์โต้ โดนาโดนี่
ดาวเตะชาว อิตาเลียน เรียกได้ว่าเกิดมาเพื่อชัยชนะอย่างแท้จริง เพราะสมัยที่ โดนาโดนี่ ค้าแข้งอยู่กับ เอซี มิลาน เขาพาทีมกวาดแชมป์ได้มากมายนับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นแชมป์ลีกสูงสุด 6 สมัย หรือ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 3 สมัย และยังมีถ้วยยิบย่อยอีกพอสมควร
แม้จะไม่ใช้นักเตะสายจบสกอร์ แต่ โดนาโดนี่ นับเป็นแข้งที่มีความถนัดในด้านการสร้างจังหวะทำการแอสซิสต์เข้าขั้นระดับปรมาจารย์เลยก็ว่าได้
17. เฮ็ลมูท ราห์น
เฮ็ลมูท ราห์น จารึกชื่อตัวเองเข้าไปอยู่บนแท่นตำนานทีม อินทรีเหล็ก ได้ในแมตช์ชิงชนะเลิศ ฟุตบอลโลก 1954 โดยเป็นการปะทะกันระหว่าง เยอรมันตะวันตก กับ ฮังการี ซึ่ง ราห์น ลงเล่นในตำแหน่งปีกขวาในเกมนั้น
ฮังการี ได้ประตูขึ้นนำก่อน 2 ลูกจนแทบจะดับความฝันของ เยอรมัน ไปแล้ว หากแต่ว่า ราห์น มาระเบิดฟอร์มทำ 1 ประตูกับอีก 1 แอสซิสต์ช่วยให้ทีมเขาของตีเสมอได้สำเร็จ ก่อนที่เจ้าตัวจะมายิงประตูชัยให้ทีมพลิกขึ้นนำคว้าแชมป์ไปได้ในตอนท้าย
16. เกรกอรซ์ ลาโต
ปีกชาว โปแลนด์ คนนี้มีบทบาทสำคัญพาทีมชาติผ่านเข้ารอบลึกในทัวร์นาเม้นต์ ฟุตบอลโลกปี 1974 และ 1982 แม้ โปแลนด์ จะต้องจบด้วยการคว้าอันดับสามทั้งสองครั้งก็ตาม
ซึ่งในทัวร์นาเมนต์ปี 1974 ลาโต ระเบิดฟอร์มไฉไลเป็นที่ประจักษ์แก่แฟนบอลทั่วโลก ด้วยการยิงประตูคนเดียวไปถึง 7 ประตูในการแข่งขันครั้งนั้น และหนึ่งในประตูยังเกิดขึ้นในรอบชิงอันดับสามที่สามารถคว่ำมหาอำนาจลูกหนังอย่าง บราซิล ลงได้ด้วย
15. อังเคล ดิ มาเรีย
การลงเล่นให้ทั้ง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง, ยูเวนตุส, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เรอัล มาดริด , และทีมชาติ อาร์เจนติน่า เป็นตัวการันตีถึงความสุดยอดของ อังเคล ดิ มาเรีย ได้เป็นอย่างดีว่าเขามีเท้าซ้ายที่อันตรายมากขนาดไหน
ดิ มาเรีย ยังเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยให้ทีมชาติ อาร์เจนติน่า คว้าแชมป์ โกปา อเมริกา ได้สองสมัยซ้อน และยังเป็นคนเติมเต็มความฝันให้ 'เมสซี่' คว้าแชมป์ ฟุตบอลโลก ได้สำเร็จ
14. โมฮาเหม็ด ซาลาห์
แม้จะถูกปักป้ายว่าเป็นนักเตะที่ล้มเหลวกับ เชลซี แต่เรื่องราวของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กับ ลิเวอร์พูล กลับแตกต่างกันคนละขั้ว เมื่อเจ้าตัวกลับมาค้าแข้งที่ ลิเวอร์พูล แล้วสามารถพาทีมคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้สำเร็จ พร้อมได้รางวัลดาวซัลโว ของลีกสูงสุด อังกฤษ ตั้งแต่ซีซันแรกที่ย้ายกลับเข้ามา
ซาลาห์ ยังถือว่าเป็นนักเตะที่ฟอร์มคงเส้นคงวามาก เพราะไม่ว่าจะเกมใหญ่เกมเล็ก ดาวเตะชาว อียิปต์ ผู้นี้ก็พร้อมจะปั่นป่วนแนวรับคู่แข่งอยู่เสมอ รวมถึงชอบยิงประตูในเกมใหญ่ได้อีกด้วย
13. จูลินโญ่
จูลินโญ่ ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักเตะที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาลของ ฟิออเรนตินา โดยในฤดูกาลแรก เขาพาทีมคว้าแชมป์ กัลโช่ เซเรียอา และในปีถัดมายังสามารถพาทีมทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ยูโรเปี้ยน คัพ ได้อีกด้วย
เขาคือหนึ่งในหลักฐานว่าทีมชาติ บราซิล ไม่เคยบกพร่องในการผลิตปีกระดับโลกขึ้นมาในแต่ละยุคสมัย
12. อัลลัน ซิโมนเซ่น
แม้จะมีส่วนสูงเพียง 165 เซนติเมตร แต่นั่นไม่ได้ทำให้ อัลลัน ซิโมนเซ่น เป็นรองคู่ต่อสู้แต่อย่างใด และมันยังเป็นข้อได้เปรียบที่ทำให้เขาใช้สเต็ปเท้ามุดหนีคู่ต่อสู้ได้ครั้งแล้วครั้งเล่าอีกด้วย
ปีกชาว เดนมาร์ก ผู้นี้เป็นกำลังสำคัญให้ โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค ในช่วงยุค 70 โดยพาทีมไปสู่จุดสูงสุดในปี 1977 ซึ่งเข้าไปได้ถึงรอบชิงชนะเลิศ ยูโรเปี้ยน คัพ แม้จะพ่ายแพ้ต่อ ลิเวอร์พูล ก็ตาม
11. เคิร์ต ฮัมริน
หลังการย้ายออกไปของ จูลินโญ่ ผู้ที่รับช่วงต่อในตำแหน่งปีกขวาก็คือ เคิร์ต ฮัมริน นั่นเอง ซึ่งก็ต้องบอกว่าดาวเตะรายนี้ทำหน้าที่ได้ดีไม่แพ้รุ่นพี่เลยทีเดียว
แม้จะโดนอาการบาดเจ็บเล่นงานอยู่เป็นระยะ ๆ แต่ ฮัมริน ก็มีสถิติลงเล่นให้ทีม ม่วงมหากาฬ ไปหลายร้อยนัด แถมช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ ยูโรเปี้ยน คัพ สมัยแรกและสมัยเดียวในประวัติศาสตร์ได้ในปี 1961 โดยที่เจ้าตัวเป็นผู้ยิงประตูในนัดชิงชนะเลิศได้อีกด้วย
10. เดวิด เบ็คแฮม
หนึ่งในดาวเตะปีกพรสวรรค์ที่ดีที่สุดตลอดกาลของทีมชาติ อังกฤษ และยังเป็นหนึ่งในขุนพลชุด ทริปเปิ้ลแชมป์ ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีกด้วย โดยไม่เพียงแค่มีหน้าตาและบุคลิกอันหล่อเหล่า แต่ฝีเท้าของ เบ็คแฮม ก็ถูกจัดว่าขั้นเทพไม่แพ้กัน โดยเฉพาะลูกนิ่งที่แม่นเหมือนเอามือจับวาง
แม้สุดท้าย เบ็คแฮม จะจบกับทีม ปีศาจแดง ได้ไม่สวยสักเท่าไร แต่การย้ายออกไปเล่นให้ เรอัล มาดริด ก็ยิ่งช่วยขับเน้นว่า เดวิด เบ็คแฮม ไม่ใช่เพียงนักเตะธรรมดาทั่วไป แต่เขาคือซุปเปอร์สตาร์ระดับโลก
9. หลุยส์ ฟิโก้
หลายคนอาจจะมองว่าเขาคือคนทรยศที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ เพราะนี่คือสุดยอดนักเตะเจ้าของรางวัล บัลลงดอร์ ซึ่งเคยค้าแข้งมาแล้วกับทั้ง บาร์เซโลน่า และ เรอัล มาดริด แถมยังโชว์ฟอร์มระเบิดกับทั้งสองทีมอีกด้วย
ส่วนผลงานกับทีมชาติ โปรตุเกส แม้ ฟิโก้ จะไม่ได้มีถ้วยรางวัลระดับชาติเยอะ แต่จนถึงปัจจุบัน ถ้าไม่นับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ก็ยังไม่มีดาวเตะ โปรตุกีส คนไหนก้าวขึ้นมาเทียบรัศมีความเก่งของ ฟิโก้ ได้เลยสักคน
8. แกเร็ธ เบล
จากดาวรุ่งในตำแหน่งแบ็คซ้าย สู่หนึ่งในปีกขวาที่ดีที่สุดตลอดกาลของโลกฟุตบอล 'แกเร็ธ เบล' ปีกความเร็วจัดจ้านผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยแบก ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ให้ก้าวขึ้นมาบินสูงบนตารางคะแนน พรีเมียร์ลีก
แน่นอนว่าเส้นทางอาชีพของ เบล กับ เรอัล มาดริด อาจไม่ได้โรยด้วยกลับกุหลาบไปซะทั้งหมด แต่ถ้าพูดถึงโมเมนต์สำคัญ เช่น ลูกโซโล่เดี่ยวไปยิง บาร์เซโลน่า หรือ ตีลังกายิงใส่ ลิเวอร์พูล เมื่อปี 2018 เบล ก็ถือว่าเป็นนักเตะที่มักจะโชว์ความมหัศจรรย์ออกมาให้เราได้เห็นอยู่เสมอ
7. อาร์เยน ร็อบเบน
บอลถูกส่งออกไปทางด้านขวา จากนั้น ร็อบเบน โยกหลอกไปมาจนกองหลังขาอ่อน แล้วโยกตัดเข้าด้านในเพื่อปั่นด้วยซ้ายจนเป็นประตู ทั้งหมดที่กล่าวมาคือสิ่งที่ อาร์เยน ร็อบเบน ทำมาตลอดกว่า 10 ปี และถึงแม้ทุกคนจะรู้ว่าเขาจะมาไม้ไหน แต่กลับไม่มีใครสามารถหยุดความร้อนแรงของดาวเตะคนนี้ได้เลย
ร็อบเบน อาจจะเป็น 'นักเตะท่าเดียว' เหมือนที่หลายคนว่า แต่มันก็เพียงพอที่จะทำให้ปีก ดัตช์แมน คนนี้คว้าถ้วยรางวัลมากมายทั้งในสมัยที่เล่นให้กับ เชลซี และ บาเยิร์น มิวนิค
6. จิมมี จอห์นสโตน
จิมมี จอห์นสโตน เป็นปีกขวาที่หลายคนยกย่องว่ามีความสามารถในการเลี้ยงบอลเข้าขั้นเทพมาก ๆ เลยทีเดียว โดยดาวเตะชาว สก็อตต์ ค้าแข้งอยู่กับ เซลติก เป็นเวลานานกว่า 13 ปี และเป็นที่รักของแฟนบอลมาก ๆ จนถึงปัจจุบัน
จุดสูงสุดของอาชีพคงเป็นปี 1967 ที่ จอห์นสโตน พา เซลติก คว้าถ้วย ยูโรเปี้ยน คัพ ได้แบบหักปากกาเซียน แถมยังมีชื่อจบเป็นอันดับสามของรางวัล บัลลงดอร์ ในปีเดียวกันด้วย
5. ลีโอเนล เมสซี่
อย่าเพิ่งแปลกใจว่าทำไมชื่อของ ลีโอเนล เมสซี่ ถึงมาอยู่ได้เพียงแค่ลำดับที่ 5 โดยเหตุผลคือดาวเตะชาว อาร์เจนไตน์ เริ่มต้นอาชีพค้าแข้งจากตำแหน่งปีกขวา ก่อนจะเริ่มกลายร่างเป็นนักเตะในตำแหน่งอื่นในเวลาต่อมา
ถ้าพูดถึงช่วงเวลาที่ เมสซี เล่นในตำแหน่งปีกขวาก็ต้องบอกว่าจัดจ้านไม่แพ้ใครในยุคเช่นกัน โดยเรามักจะได้เห็นคลิป เมสซี สมัยผมยาวเลี้ยงผ่านผู้เล่น 5-6 คนเหมือนเป็นเรื่องง่าย ๆ และยังสามารถจบสกอร์ได้แบบไร้ความกังวลอีกด้วย
แน่นอนว่าถ้า เมสซี ยังคงเดินเส้นทางในตำแหน่งปีกขวาต่อไป เขาก็คงได้ขึ้นไปอยู่บนลำดับที่สูงกว่านี้แน่นอน
4. สแตนลีย์ แมทธิวส์
นอกจากจะเป็นปีกขวาที่เก่งมาก ๆ แล้ว สแตนลีย์ แมทธิวส์ ยังเป็นนักฟุตบอลที่ใช้เวลาค้าแข้งอยู่ในโลกฟุตบอลยาวนานถึง 33 ปี ซึ่งเชื่อหรือไม่ว่าตลอดระยะเวลาเหล่านั้น แมทธิวส์ รับใช้ต้นสังกัดเพียงแค่ 3 สโมสรเท่านั้น
แมทธิวส์ ยังขึ้นชื่อเรื่องของความเป็นนักเตะสุภาพบุรุษ คือมีความเป็นนักกีฬาที่ขาวสะอาดสูง แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อถึงเวลาต้องเลี้ยงบอลผ่านคู่แข่ง สุภาพบุรุษคนนี้ก็ไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้นเหมือนกัน
3. แจร์ซินโญ่
ชื่อของ แจร์ซินโญ่ โด่งดังเป็นพลุแตกในทัวร์นาเม้นต์ ฟุตบอลโลก 1970 โดยที่เจ้าตัวเป็นคนแรกที่สามารถยิงประตูได้ในทุกรอบการแข่งขัน และพาทีมคว้า แชมป์โลก ได้สำเร็จร่วมกับตำนานอย่าง คาร์ลอส อัลแบร์โต้, ริเวลิโน่, และ เปเล่ ซึ่งว่ากันว่านี่คือทีมชาติ บราซิล ชุดที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์เลยทีเดียว
แม้ แจร์ซินโญ่ จะไม่ใช่นักเตะที่โดดเด่นเหมือนเพื่อนร่วมทีมอย่าง เปเล่ แต่ก็ต้องยอมรับว่าความสามารถในการพาบอลควบตะลุยขึ้นหน้า และความเร็วอันจัดจ้านของเขาก็มีส่วนไม่น้อยที่ช่วยให้ทัพ เซเลเซา มีความดุดันกระซวกไส้เป็นที่สุด
2. จอร์จ เบสต์
ในช่วงยุคปี 70 คงไม่มีใครหน้าไหนในวงการลูกหนัง อังกฤษ ที่ร้อนแรงไปมากกว่า จอร์จ เบสต์ อีกแล้ว เพราะนี่คือนักเตะที่มีทั้งฝีเท้าฟ้าประธานและหน้าตาอันหล่อเหล่าในเวลาเดียวกัน
เบสต์ ประสบความสำเร็จเกือบทุกอย่างตั้งแต่ช่วงอายุ 20 ต้น ๆ โดยเขาเป็นหนึ่งใน 'โฮลี่ ทรินิตี้' ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ร่วมกับ เดนนิส ลอว์ และ เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน และยังพาทีมคว้าแชมป์ทั้งในและนอกประเทศอย่างมหาศาลตั้งแต่อายุเพียง 22 ปีเท่านั้น คือเรียกได้ว่าเป็นบุคคลทรงคุณค่าของสโมสร ปีศาจแดง อย่างแท้จริง
1. การ์รินช่า
ไม่สำคัญว่าผู้คนจะเรียกเขาว่า 'เจ้านกน้อย' , 'ความสุขของมวลชน' , หรือ 'เทวดาขาสั้น' เพราะสิ่งที่ การ์รินช่า เคยแสดงให้โลกเห็นคือเขาสามารถแตะบอลหลบคู่แข่งได้นับครั้งไม่ถ้วน ถึงแม้จะมีขาขวาที่สั้นกว่าขาซ้ายถึง 6 เซนติเมตรก็ตาม
แม้จะถูกตีตราว่าเป็นนักเตะที่ไม่สมบูรณ์ แต่ดาวเตะชาว บราซิลเลี่ยน ก็ถูกยกย่องให้เป็นนักเตะที่เลี้ยงบอลเก่งที่สุดในประวัติศาสตร์เลยทีเดียว โดยเจ้าตัวพาทีมชาติ บราซิล คว้าแชมป์ ฟุตบอลโลก ได้ถึง 2 สมัยในปี 1958 และ 1962